รถวิ่งสะดุด ติดยาก “ปั๊มติ๊ก” พัง จริงหรือมั่ว!
“ปั๊มติ๊ก” เป็นชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของ “ปั๊มน้ำเชื้อเพลิง” ในปัจจุบันรถยนต์ที่ใช้ระบบหัวฉีดมีความต้องการแรงดันที่สูงขึ้น จึงเปลี่ยนมาเป็นระบบ “ปั๊มติ๊กไฟฟ้า” โดยมีทั้งแบบ เรกกูเรเตอร์อยู่ในถังน้ำมัน และแบบใช้ ECU เป็นตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า
ส่วนมากแล้ว “ปั๊มติ๊ก” จะเสียบ่อยสาเหตุหลักเกิดจากปล่อยให้น้ำมันให้ใกล้หมดเป็นประจำทำให้เกิด ความเสียหายต่อชิ้นส่วนรถยนต์ เพราะการทำงานของปั๊มติ๊กเป็นชิ้นส่วนที่ต้องการน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเพื่อ ป้องกันความร้อน พูดง่ายๆคือเมื่อไม่มีน้ำมันมาหล่อเลี้ยง “ปั๊มติ๊ก” ต้องทำงานหนักขึ้นและก็พังในที่สุด
“วิธียืดอายุให้ใช้ได้นานๆก็ต้องหมั่นเติมน้ำให้เกือบครึ่งถังอยู่เสมอ หรือหากรถคุณจอดทิ้งไว้นานๆ ไม่ค่อยได้ขับแนะนำให้เติมน้ำมัน “เบนซิน” ที่ไม่มีส่วนผสมของเอทานอลจะช่วยป้องกัน “ปั๊มติ๊ก” ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว”
แต่หากรถคุณมีอาการดังต่อไปนี้ต้องรีบเข้าศูนย์บริการ หรือเข้าอู่ที่ได้มาตรฐานทันทีเพื่อให้ช่างวัดแรงดันน้ำมัน งบประมาณการเปลี่ยนทั้งชุดมีราคาตั้งแต่ 5,000 ไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถที่คุณใช้ด้วยยังไงก็อย่าลืมสอบถามราคาก่อนเปลี่ยนนะครับ
อาการปั๊มติ๊กพัง!
- ไม่มีเสียงดัง ติ๊กๆ ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ (รถรุ่นเก่า)
- รถสตาร์ทติดยาก (เช็กแบตเตอรี่เต็ม ไดร์สตาร์ทดัง ฟิวส์ไม่ขาด)
- สตาร์ทรถแล้วเครื่องยนต์กระตุก หรือเร่งไม่ขึ้น
- เครื่องยนต์สะดุด ขณะขับรถที่ความเร็วคงที่
- รถติดแก๊ส สตาร์ทน้ำมันไม่ติด สตาร์ทแก๊สติด
วิธีเปลี่ยน “ปั๊มติ๊ก” ด้วยตนเอง
- ถอดเบาะหลังออกเพราะ (ปั๊มติ๊ก อยู่ใต้เบาะ)
- สังเกตแผ่นเหล็กใต้เบาะ (รูปวงรี)
- ใช้ไขควงแฉกเอาน๊อตทั้ง 4 ตัวออกมา
- ปลดตัวล็อคที่ปลั๊กเขียวอ่อนทั้งสองข้าง
- ใช้ประแจเบอร์ 10 ขันน็อตที่ตัวปั๊มออก
- ดึงปั๊มติ๊กตัวเก่าออกมา ใส่ของใหม่เข้าไป
ถ้าหากคุณไม่ได้ชำนาญหรือมีความเป็นช่างแนะนำให้เข้าศูนย์บริการเลยครับเพราะ เป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควรในการต้องรื้อเบาะหลังรถยนต์ แล้วต้องมาถอดชิ้นส่วนต่างออกอีก ไหนจะต้องเปลื้อนน้ำมันเลอะเทอะ
เครดิต www.sanook.com