รวมอาการผิดปกติของรถยนต์ ที่เตรียมตัวเข้าอู่ได้เลย
อาการผิดปกติของรถยนต์ สามารถสังเกตเองได้ในเบื้องต้น ทั้งขณะขับขี่ และจอดรถไว้เฉยๆ เพราะคนส่วนใหญ่ (ที่มีความรู้เรื่องรถ) มักจะจับอาการเหล่านี้ได้ หรือมองเห็นความผิดปกติ และขณะขับรถอยู่มีความรู้สึกไม่เหมือนเดิม แปลกไปจากที่เคยเป็น เช่น รถร่อนซ้าย-ขวา เสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ เบรกไม่ค่อยจะอยู่ ฯลฯ
ซึ่งถ้าหากมีอาการต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น อย่าได้ชะล่าใจ คุณควรที่จะรีบนำรถไปตรวจเช็ก และซ่อมแซมให้ไว มิเช่นนั้นมันอาจจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ และทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิมได้
สำหรับอาการผิดปกติต่างๆ ที่ต้องรีบซ่อม หรือตรวจเช็กโดยเร็ว เราได้รวบรวมเอาไว้ทั้งหมด 8 ข้อ ดังนี้
- เบรก หากมีอาการเบรกไม่อยู่ เบรกลื่น แป้นเบรกจมลงไปไม่เด้งคืน เบรกแล้วรถปัดไปทางใดทางหนึ่ง ฯลฯ ให้รีบนำรถเข้าอู่ทันที เพื่อความปลอดภัย
- ยางรถยนต์ ดอกยางเป็นบั้ง ดอกยางสึกตรงกลาง หรือสึกที่ขอบล้อ และดอกยางสึกเฉพาะล้อใดล้อหนึ่ง ฯลฯ ให้นำรถไปปรับแรงดันลมยางใหม่ หรือตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่
- น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ต่างๆ ขณะขับขี่รถยนต์ หากมีสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นขึ้นที่หน้าปัด แสดงว่ารถยนต์ของคุณกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ขาดน้ำมัน ให้รีบขับรถเข้าอู่ให้ไวที่สุด เพราะเครื่องยนต์อาจมีจุดรั่วซึมอยู่ หรือถ้าอู่อยู่ไกล ให้หาน้ำมันหล่อลื่นมาใส่เติมลงไปก่อน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- เกียร์ มีเสียงดังในขณะที่เข้าเกียร์, มีอาการติดๆ ขัดๆ เข้าเกียร์ยาก, เหยียบคลัตช์เข้าเกียร์แล้วมีเสียงดัง, เกียร์มีน้ำมันไหล รั่วซึมออกมา ฯลฯ ให้รีบนำรถเข้าไปตรวจเช็กที่อู่โดยเร็ว
- คลัตช์ เหยียบแป้นคลัตช์แล้วเข้าเกียร์ยาก, คลัตช์ลื่น, คลัตช์สั่นขณะกำลังขับรถ, เหยียบคลัตช์แล้วมีเสียงดังผิดปกติ ฯลฯ ควรรีบนำรถไปตรวจเช็กทันที เพรราะมันจะมีปัญหาต่อเนื่องไปยังเกียร์ อาจทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้
- ไดชาร์จ หลังจากที่สตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว ไฟสัญญาณเตือนที่โชว์ในตอนแรกควรที่จะดับลง แต่ถ้าพบว่าไฟเตือนไม่ดับ โชว์ค้างไว้ตลอดเวลา ไดชาร์จอาจเก็บไฟไม่อยู่ หรืออาจเกิดจากระบบไฟอื่นๆ ทางที่ดีให้รีบนำรถเข้าไปตรวจเช็กหาสาเหตุให้เรียบร้อย
- พวงมาลัย มีอาการสั่นมากขึ้นขณะขับขี่ และเมื่อต้องการเลี้ยว หรือยูเทิร์น พวงมาลัยหนักผิดปกติ ต้องใช้แรงมากกว่าเดิมในการเลี้ยว รวมไปถึงอาการพวงมาลัยหลวม เพราะมีระยะฟรีทิ้งเกินมากกว่า 1 นิ้ว แนะนำให้เข้าศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ จะดีกว่า
- หลอดไฟ คอยสังเกตดูว่าหลอดไฟรถของคุณขาดบ่อยเกินไปหรือไม่ และหากมีอาการน้ำกลั่นแบตเตอรี่หมดไวผิดปกติ ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ ร่วมด้วย อาจเป็นเพราะตัวควบคุมกระแสไฟ Regulator (เรกูเลเตอร์) มีปัญหา ให้นำไปซ่อม หรือเปลี่ยนใหม่ที่อู่ที่ทำเกี่ยวกับระบบไฟโดยเฉพาะ
หากมีอาการผิดปกติต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น อย่าได้นิ่งนอนใจเป็นอันขาด เพราะไม่แน่ว่าสาเหตุเพียงแค่ข้อเดียว มันอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ได้อีก แทนที่จะเสียเงินซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่แค่ส่วนเดียว อาจต้องเสียเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ คิดว่าเดี๋ยวค่อยซ่อม รถยังขับได้อยู่ ซึ่งความคิดเหล่านี้มีให้เห็นเยอะมาก และส่วนใหญ่มักเจ็บตัว (เสียเงินเพิ่ม) กันเยอะแยะ
เครดิต www.sanook.com