วิธีเคลือบป้องกันสีรถยนต์ นอกจากการเคลือบแก้ว ยังมีให้คนรักรถเลือกอีกทางหนึ่งคือ การเคลือบเซรามิก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยม ทำให้รถดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา และยังช่วยให้ดูแลรักษารถได้ง่ายขึ้นด้วย

เคลือบเซรามิก คืออะไร

การเคลือบเซรามิก หรือ Ceramic Coating มีคุณสมบัติแบบ Permanent Coaitng คือ ปกป้องแบบคงทนถาวรด้วยการประสานโครงสร้างแบบตาข่ายคริสตัล ( Crystal lattice ) ระหว่าง SIC ( Silicon Carbide) และชั้นแลคเกอร์ ทำให้ Opti-Coat เป็นผลิตภัณฑ์เคลือบเซรามิคที่มีการปกป้องสูงและอยู่ติดพื้นผิวคงทนยาวนาน หรือปกป้องสีรถยนต์ได้ประมาณ 1-5 ปีขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษารถยนต์คันนั้นๆ

ข้อดีเคลือบเซรามิก

• รักษาสภาพสีรถเดิมให้คงความสวยงามที่ยาวนาน
• ปกป้องสีรถทำให้เงาและใสอยู่เสมอ ทนทานกว่าเคลือบ wax อย่างน้อย 1-7 ปี
• ลดการจับตัวของคราบน้ำ น้ำไม่เกาะตัวรถ ช่วยป้องกันรถคุณจากฝนกรดทำให้สีรถดูหมอง
• ลดการเกิดรอยขนแมว หรือ รอยขีดข่วนที่เกิดจากการใช้งาน
• ลดการฝังตัวของคราบสกปรกต่างๆ
• ป้องกันแสง UV ลดการซีดจาง หรือ หมอง และไม่แตกลายงาในระยะยาวจากการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน

ข้อเสียเคลือบเซรามิก

• ไม่ได้ป้องกันสะเก็ดหิน แต่เป็นการเพิ่มความเงางามของสีรถ แต่หากต้องการป้องกันสะเก็ดหิน แนะนำให้ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์
• ไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนทั้งหมดได้ เป็นแค่การลดการเกิดรอย หรือป้องกันรอยขนแมวเท่านั้น
• มีราคาค่อนข้างสูง

หากซื้อรถยนต์ใหม่ จำเป็นต้องเคลือบเซรามิกหรือไม่ เคลือบเซรามิกอาจไม่จำเป็น แต่สามารถทำได้เพื่อเสริมเกราะป้องกันให้กับสีรถให้สวยงามและแข็งแรงอยู่เสมอ แต่หากไม่มีเวลาในการดูแลรักษารถยนต์มากนัก การเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่มา primusauto, วิริยะประกันภัย

เครดิต www.autospinn.com

แนะนำการใช้งานเว็บไซต์ Gaeglong ( แกะกล่อง ดีเซล ออโต้พาร์ท)

[vc_video link=”https://youtu.be/2Bu5olXxDBs” align=”center”]