โดยส่วนใหญ่แล้วเวลาที่สตาร์ทรถไม่ติด จะคิดว่าแบตเตอรี่หมดหรือหมดสภาพ แต่แท้จริงแล้วถ้าตรวจสอบดีๆแล้ว บางครั้งปัญหาเกิดจากไดร์สตาร์ทต่างหากหล่ะ!
ไดร์สตาร์ท (Starter)คืออุปกรณ์ส่วนหนึ่งที่ติดอยู่กับตัวเครื่องยนต์ หน้าที่หลักเป็นตัวช่วยที่จะส่งพลังต้นไปสู่เฟืองมูเล่ห์หลัง (Fly Wheel Ring) เพื่อทำให้เครื่องยนต์มีพลังงาน เมื่อติดเครื่องได้แล้วก็หมดหน้าที่ของอุปกรณ์ชิ้นนี้ เป็นเป็นเหตุผลนึงว่าทำไมคนถึงไปสงสัยแบตเตอรี่ก่อน เพราะไดร์สตาร์ทเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจะมีอายุการใช้งานที่นาน แต่พอให้มาเป็นเวลานานอายุขัยก็จะเริ่มหมดลง
โดยส่วนใหญ่แล้ว ตำแหน่งของไดร์สตาร์ทจะอยู่ตำแหน่งท้ายเครื่อง (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสายฟานหน้าเครื่อง)
แล้วจะรู้ได้ยังไงหล่ะว่า “ไดร์สตาร์ทเสีย”?
  1. บิดกุญแจไปตำแหน่งขวาวุดแล้วรถไม่มีการตอบสนอง – อาการนี้บ่งบอกได้เลยว่าสตาร์ทใกล้กลับบ้านเก่าไปแล้ว ถ้าลองสตาร์ท 2-3 ครั้งยังเป็นเหมือนเดิม ให้ใช้วิธีบิดเร็วๆทีเดียวเลย ถ้าฟรุ๊คติดขึ้นมาให้รีบกลับบ้านโดยด่วน ไม่ควรแวะจอดที่ไหน
  2. สตาร์ทติดแต่มีเสียงดังไม่พึงประสงค์ – อาการนี้ก็ใช่เหมือนกัน ถ้าเกิดอาการควรรีบไปตรวจสอบสภาพโดยด่วน
  3. บิดกุญแจรถไปไว้ที่ตำแหน่งเกือบขวาสุด – ให้หน้าบัดคอนโซนรถแสดงไฟสัก 2-3 วินาทีแล้วค่อยสตาร์ทรถ วิธีนี้แนะนำให้ลองทำดูเมื่ออยู่ที่บ้านเพราะถ้าไม่ติดก็คือไดร์เสียคับ
การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นถ้าสตาร์ทรถไม่ติด
  1. การสตาร์ทรถแบบเร็วๆ – อาจจะได้ผลกับไม่ทุกคับ ให้เสียบกุญแจแล้วบิดเร็วๆรวดเดียว
  2. หากเป็นรถเกียร์กระปุก – ให้ใช้การเข็น ให้ใส่เกียร์ไว้ที่เกียร์ 1 แล้วเหยียบคลัชค้างไว้ บิดกุญแจไปไว้ตำแหน่งเกือบขวาสุด (ที่ไฟหน้าคอนโซนขึ้น) เมื่อเข็นจนได้ความเร็วแล้วทำการปล่อยคลัชแล้วเหยียบคันเร่ง พอเครื่องติดแล้วให้แตะเบรกแล้วก็รีบไปหาอู่ซ่อมทันที
เกล็ดความรู้เล็กๆนี้ อาจช่วยทุกท่านได้ในยามคับขัน #แต่เพื่อเครื่องฉันทำได้