เครื่องยนต์ EcoBoost
สำหรับคอลัมน์นี้ เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จัก กับอีกหนึ่งขุมพลังที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่มอบพละกำลังสูงถึง 180 แรงม้า ภายใต้ความจุเพียง 1.5 ลิตร อีกทั้งยังให้ความประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถเลือกใช้พลังงานทางเลือก E85 ได้อีกด้วย การันตีด้วยรางวัล International Paul Pietsch Award 2013 สาขานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี จากประเทศเยอรมนี, รางวัล Royal Academy of Engineering Colin Campbell Mitchell, รางวัล Dewar Trophy จากราชยานยนต์สโมสรในประเทศอังกฤษ และรางวัล Breakthrough Award จากนิตยสาร Popular Mechanics ในประเทศสหรัฐอเมริกา กับขุมพลังที่มีชื่อว่า “EcoBoost“
เครื่องยนต์ EcoBoost เปิดตัวครั้งแรกในปีพ.ศ. 2552 ในรถฟอร์ด ทอรัส เอสเอชโอ ด้วยเครื่องยนต์ EcoBoost V6 ขนาด 3.5 ลิตร โดยในปีพ.ศ. 2553 นับเป็นปีแรกที่มีการผลิตเครื่องยนต์ EcoBoost ตลอดทั้งปี โดย “EcoBoost Turbo” คือ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ระดับโลกของ Ford ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพโดดเด่น ทั้งในด้านสมรรถนะความแรงและความสามารถในการประหยัดน้ำมัน การันตีด้วยการคว้ารางวัลจากงานประกวดเครื่องยนต์นานาชาติยอดเยี่ยม (International Engine of The Year) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ในปี 2558 จากเครื่องยนต์รุ่น EcoBoost 1.0 และนับเป็นรางวัลที่ 8 ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี
เครื่องยนต์ EcoBoost 1.0 ลิตร
ปัจจุบันเครื่องยนต์ EcoBoost Turbo ผลิตขึ้นที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี เมืองไครโอวา ประเทศโรมาเนีย และเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งมีจำหน่ายใน 72 ประเทศทั่วโลก โดย Ford ได้ผลิตเครื่องยนต์ตระกูล EcoBoost Turbo อันทรงพลังขนาดต่างๆ ทั้งเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร, 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร, 1.6 ลิตร, 2.0 ลิตร และ 2.3 ลิตร รวมถึงเครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 2.7 ลิตร และ 3.5 ลิตร โดยเครื่องยนต์แบบหลังสุด ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับติดตั้งในรถ ฟอร์ด จีที รุ่นใหม่ ที่จะใช้ลงแข่ง ณ สนาม เลอ ม็องส์ ประเทศฝรั่งเศสในปี 2559
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ EcoBoost Turbo ที่ได้รับการติดตั้งใน Ford Focus ใหม่ รุ่นล่าสุดนี้ เป็นเครื่องยนต์ EcoBoost Turbo ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 ลูกสูบ ที่รองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 5,000 รอบ/นาที มอบพละกำลังที่ดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรทั่วไป และยังประหยัดน้ำมันในอัตราประมาณ 14 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร และเพื่อการขับขี่สนุก และแรงทันใจมากยิ่งขึ้น Ford Focus EcoBoost Turbo 1.5 ลิตร ยังมาพร้อม ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย (Paddle Shift) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยได้อย่างรวดเร็วได้ โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ EcoBoost ทำงานด้วยระบบเทอร์โบชาร์จ (Turbo Charge) ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น (GTDi – Gasoline Direct Injection) และระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ (Ti-VCT) เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บล็อกเครื่องยนต์อะลูมิเนียมใหม่ ยังช่วยลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ รวมถึงช่วยเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
กระบอกลูกสูบใหม่ที่ช่วยเพิ่มการระบายความร้อน และท่อไอเสียแบบรวมช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการส่งผ่านปริมาณอากาศที่พอเหมาะไปยังเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ท่อไอเสียแบบรวม ยังช่วยลดระยะการส่งก๊าซไอเสียจากกระบอกสูบไปยังเทอร์โบชาร์จซึ่งจะช่วยลดอาการรอรอบเทอร์โบ (Turbo-lag) ตอนที่รถต้องการแรงบิดอย่างรวดเร็ว การปรับปรุงพัฒนาระบบควบคุมเครื่องยนต์ใหม่นี้ ยังช่วยยกระดับการทำงานของเครื่องยนต์ ที่มอบความเงียบและประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Ford Focus กับขุมพลัง EcoBoost Turbo 1.5 ลิตร
เครดิต www.boxzaracing.com