อะไหล่แท้ อะไหล่เทียม อะไหล่เทียบ เทียมๆแท้ๆ แท้ๆเทียมๆ จะเลือกอันไหนดี ตอน2
เครื่องยนต์และเกียร์
ชิ้นส่วนพวกท่อยาง พลาสติก ควรใช้ของแท้เพราะอายุการใช้งานนั้นสูงกว่าของเทียมหลายเท่าตัว ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นลูกสูบ แหวน วาล์ว แบริ่ง ปั๊มน้ำ ฯลฯ พวกนี้ต้องใช้ของใหม่ และแท้เท่านั้น
ส่วนระบบอื่นๆ เช่น แอร์ หม้อน้ำ อยากจะบอกว่าก่อนอื่นต้องเช็กราคาของใหม่ก่อน โดยเฉพาะหม้อน้ำสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ มักจะเป็นอะลูมิเนียมคอเป็นพลาสติก ราคาอยู่ในราว 5,000-8,000 บาท ส่วนหม้อน้ำตามร้านหม้อน้ำทั่วไปจะเป็นทองแดง ถ้าทำใหม่ก็ตกใบละ 3,500-6,000 บาท แต่ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนนั้นสู้ของแท้ไม่ได้เลย ซื้อของแท้ไปเลย อย่างน้อยๆ อยู่ได้อีก 6-7 ปีเป็นอย่างน้อย ยิ่งรถที่มีเทอร์โบพอเจอหม้อน้ำทองแดงจะมีปัญหาเรื่องความร้อนขึ้นสูงกว่าปกติเล็กน้อย แม้ว่าจะขยายเป็น 2 หรือ 3 ช่องแล้วก็ตามที เพราะจำนวนหลอดน้ำน้อยกว่า ครีบระบายความร้อนก็น้อยกว่าของแท้
ระบบแอร์นั้นถ้าเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ใช้มือสองก็พอไหว ถ้าสนนราคาอยู่ในราว 3,000-4,000 บาท เพราะของใหม่นั้นอยู่ในราวหมื่นต้นๆ ขึ้นไป ส่วนท่อทางไดเออร์ วาล์วฉีดน้ำยา และคอยล์เย็นต้องใช้ของแท้เท่านั้น เพราะส่งผลต่อความเย็นฉ่ำโดยตรง อย่าไปเชื่อร้านว่าใช้ของเทียมได้ เพราะใช้ได้จริงแต่ความเย็นสู้กันไม่ได้ และราคาอะไหล่พวกนี้ต่างกันแค่หลักร้อยเท่านั้น
เรื่องของระบบเกียร์ ถ้าเกียร์เสื่อมสภาพมีทางแก้สองอย่าง คือซ่อมกับเปลี่ยนเกียร์มือสอง อยากแนะนำประเด็นแรกก่อนเพราะเดี๋ยวนี้การซ่อมเกียร์ที่ศูนย์บริการก็ไม่แพงเหมือนเก่า และที่สำคัญการที่จ่ายแพงกว่านั้นก็เป็นการรับประกันต่อเนื่องด้วย และการรับประกันของศูนย์นั้นเราสามารถที่จะเรียกร้องให้ซ่อมแซมเมื่ออยู่ในระยะรับประกันได้ จะแพงกว่าซ่อมอู่ทั่วๆ ไปราว 15-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้อะไหล่ที่มีคุณภาพและการซ่อมแซมที่ได้มาตรฐาน
รองลงมาเป็นอู่ที่รับซ่อมเกียร์โดยอู่เฉพาะทางแบบนี้มีไม่กี่แห่ง แต่ฝีมือเทียบเท่ากับศูนย์บริการราคาถูกกว่ากันไม่มากนัก และแพงกว่าอู่ซ่อมเครื่องยนต์และเกียร์ทั่วๆ ไป ลองประเมินดูก่อนว่าค่าซ่อมออกมาเท่าไหร่ ถ้ารับไหวก็ซ่อม การซ่อมแบบนี้อยู่ได้นานกว่า ถ้างบน้อยก็ต้องยอมทำใจอาจจะต้องลุ้นหน่อย
ซื้อเกียร์มือสองลูกหนึ่งก็ราว 8,000-15,000 บาท หรือแพงกว่านั้นขึ้นอยู่กับรุ่นรถด้วย แบบนี้เร็วเพราะทำไม่เกินครึ่งวัน ส่วนอายุการใช้งานนั้นไม่แน่นอนไม่สามารถคาดเดาได้ ถ้าโชคดีก็ใช้ได้นานหลายปีโชคร้ายก็นับเดือนพัง
ช่วงล่าง
เบรก คลัตช์ สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง แนะนำว่าต้องเป็นของแท้หรือดีกว่าของแท้เท่านั้น พวกลูกหมาก บูช คันชักคันส่ง ต้องใช้ของแท้เท่านั้น เนื่องจากเคยพบกับตัวว่าของเทียมแม้จะเป็นยี่ห้อดังๆ ก็หลุด QC ให้เห็นบ่อยใช้งานได้ไม่กี่เดือนก็เสียอีก และที่เสียก็ร้ายแรงถึงขนาดหลุดออกจากเบ้า0
ผ้าเบรกผ้าคลัตช์ ควรเป็นของแท้หรือของมียี่ห้อดีกว่า มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ถ้าราคาถูกมากๆ ไม่แนะนำเพราะอายุการใช้งานและประสิทธิภาพไม่ดีนัก
ลูกปืนล้อ ลูกปืนคลัตช์ ก็เปลี่ยนเอาของยี่ห้อทั่วไปได้ ไม่มีผลต่อความปลอดภัย ส่วนจานเบรกของแท้แพง ก็สามารถซื้อของที่มีคุณภาพอย่างพวก Bendix, TRW, Brembo ใช้ได้ ราคาพอๆ กับของแท้ ประสิทธิภาพพอกัน เพราะพวกนี้ผลิตส่งโรงงานผู้ผลิตรถยนต์อยู่แล้ว
โช้กอัพถ้าเป็นรถญี่ปุ่นหรือราคาอะไหล่ไม่แพงนัก ก็ควรเปลี่ยนใหม่ จะยี่ห้อ KYB (Kayaba) หรือ Monroe เกรดสแตนดาร์ดก็ใช้ได้ ถูกกว่าเบิกห้างเยอะและมีรับประกัน 1 ปี เวลาซื้อก็เรียกหาใบรับประกันไว้ด้วย
ส่วนชุดซ่อมอื่นๆ เช่น ชุดซ่อมเบรก ปั๊มเบรก ปั๊มคลัตช์ ซีลกันน้ำมันต่างๆ พวกอะไหล่จุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ไปเบิกของแท้ดีกว่า อยู่ได้ยาวนานกว่ากันเยอะ และตัดปัญหาว่าซื้อมาแล้วอะไหล่ไม่ฟิตพอดีกับชิ้นส่วนด้วย ราคาก็ต่างจากของเทียมไม่เยอะนัก
อย่าด่วนตัดสินใจ
การเลือกอะไหล่และการซ่อมเป็นสิทธิ์ของเรา เวลาเข้าไปประเมินราคาก็ยังไม่ได้หมายความว่าต้องซ่อมกับอู่นั้นๆ ถ้าช่างคิดค่าแรงตรวจเช็กก็ให้ไป แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเป็นอาการดังกล่าวชัวร์หรือไม่ เหมือนกับเวลาที่เราไปหาหมอแล้วไม่สบายใจ เราก็มีสิทธิ์ไปหาหมอคนอื่น
รถก็เหมือนกัน ถ้าไม่แน่ใจลองเข้าไปสัก 2-3 แห่งแล้วค่อยตัดสินใจ เรื่องอะไหล่เป็นเรื่องที่เราตัดสินใจเอง ถ้าอู่ยัดเยียดให้นักก็ไม่ต้องทำ มีอู่ดีๆ อีกเยอะ การตัดสินใจในการเลือกอะไหล่มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ และอายุการใช้งานของตัวรถ
บางอย่างควรจะต้องกัดฟันจ่าย บางอย่างก็ไม่จำเป็น ของเทียมก็ได้ มือสองก็ได้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็น แต่ถ้าอันไหนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและระบบไฟฟ้าของเครื่องยนต์ แนะนำว่าของใหม่ดีที่สุด สุดท้ายจะได้ใช้รถอย่างมีความสุขและสบายกระเป๋า
วันนี้ศูนย์ซ่อมอิสระ หรือแม้แต่อู่ทั่วไปก็ไม่ได้ถูกกว่าศูนย์มากนัก หลายครั้งที่นำเข้าซ่อมแล้วปรากฏว่าค่าใช้จ่ายโดยรวมถูกกว่าศูนย์เพียง 10-20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ควรเข้าศูนย์เพราะอย่างน้อยคุณจะได้การรับประกันการซ่อมและการรับประกันอะไหล่ สิ่งสำคัญเมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็ยังตามไล่เบี้ยได้ง่าย
ส่วนศูนย์บริการเองก็ต้องพัฒนาฝีมือช่างและพัฒนาเรื่องความใส่ใจในการซ่อมให้มากขึ้น ควรจะเน้นการตรวจเช็กให้ละเอียดจากอะไหล่ราคาถูกๆ ไปก่อน ไม่ใช่เปลี่ยนแบบหว่านแหเปลี่ยนแล้วไม่หาย ลูกค้าต้องเข้า 2-3 รอบ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถครั้งต่อไปของลูกค้าด้วย
ไม่ควรยัดเยียดการบริการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการซ่อมบำรุงปกติ ไม่ว่าจะเป็นการล้างหัวฉีด ฟื้นฟูระบบปรับอากาศ ล้างเกียร์ทั้งระบบ ฯลฯ หลายครั้งที่เจอรถลูกค้าอายุยังไม่ถึงปีหรือวิ่งน้อยๆ แต่ยัดเยียดการบริการเหล่านี้ให้ ซึ่งค่าบริการแต่ละอย่างก็มีอย่างน้อยๆ 3,000 บาทขึ้นไป ทำให้กลายเป็นสิ่งที่ผลักลูกค้าให้ไปใช้บริการด้านนอก บริการเหล่านี้ควรใช้เป็นแผ่นพับหรือโปสเตอร์ติดไว้ตามที่ลูกค้านั่งอยู่ ถ้าลูกค้าสนใจจะถามหาเองและก็ยังจะใช้บริการต่อเนื่อง ไม่ใช่ยัดเยียดการขายให้กับลูกค้า
เครดิต www.gmcarmagazine.com