มาทำความรู้จักหม้อน้ำและวิธีดูแลรักษาเบื้องต้นกันเถอะ
หม้อน้ำเป็นตัวช่วยระบายความร้อนในการทำงาน ของเครื่องยนต์ การระบายความร้อนรถยนต์โดยทั่วไปจะใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน จึงต้องมีการดูแลระดับน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ถ้าขาดการดูแลแล้วจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง และเครื่องยนต์อาจเสียหายได้
ภาพตัวอย่างการไหลเวียนของน้ำเพื่อระบายความร้อน
ถ้าหากรถยนต์ขาดระดับน้ำที่เหมาะสมจะมีสัญญาณเตือนบริเวณหน้าปัดของรถ ตรงบริเวณใกล้กับเรือนไมล์บอกความเร็ว จะมีเข็มบอกโดยใช้สัญลักษณ์เป็น C เท่ากับ Cool คือเย็น และ H เท่ากับ Hot คือ ร้อน โดยปกติเข็มวัดความร้อนอยู่ในระดับปานกลางระหว่าง C กับ H ถ้าขาดการดูแลระดับน้ำ ความร้อนจะขึ้นถึงตัว H หรือเลยขึ้นไป ถ้าอยู่ในระดับนี้อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ “ต้องหยุดใช้งานทันที”
ภาพตัวอย่างเข็มอุณหภูมิหม้อน้ำในระดับปกติ (โดยส่วนใหญ่เข็มจะอยู่ตรงกลาง)
น้ำที่ใช้ในการเติมหม้อน้ำ ใช้น้ำธรรมดาที่ใสไม่มีตะกอน เช่น น้ำประปาทั่วไปขอให้เป็นน้ำสะอาดเท่านั้น และสิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือ ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะจะได้รับอันตรายจากไอน้ำที่พุ่งออกมา
ประเภทของหม้อน้ำรถยนต์แบ่งได้ 3 แบบดังนี้
1. หม้อน้ำที่ไม่มีหม้อพักน้ำสำรอง กรณีนี้จะเป็นรถรุ่นเก่า จะไม่มีหม้อพักน้ำสำรองให้เราดูระดับน้ำก็ต้องเปิดฝาหม้อน้ำโดยตรง และดูว่าระดับน้ำในหม้อน้ำนั้นลดลงหรือไม่ ถ้าลดลงก็เติมน้ำลงไปให้เต็มพอปิดฝาหม้อน้ำได้ อย่าให้น้ำล้นออกมามาก
2. หม้อน้ำที่มีหม้อพักน้ำสำรอง และยังมีฝาปิดหม้อน้ำให้เติมอยู่ ระบบนี้เป็นระบบใช้กับรถรุ่นใหม่ กว่าข้อ 1 คือในส่วนของหม้อน้ำจะมีที่เก็บน้ำสำรองเป็นพลาสติกติดอยู่ข้างหม้อน้ำและมี สายต่อโยงถึงกัน ในระบบนี้ถ้าจะเติมในหม้อน้ำ ต้องเติมให้หม้อน้ำเต็มตามระดับที่เหมาะสมเสียก่อนจึงเติมน้ำลงไปในหม้อน้ำ สำรอง การเติมน้ำในหม้อน้ำพักน้ำสำรองต้องเติมตามจำนวนที่เหมาะสม ห้ามเกินขีดที่กำหนดไว้ โดยจะกำหนดไว้คือ
MAX คือ จำนวนน้ำมากที่สุดอยู่ที่ระดับนี้ ห้ามเติมน้ำจนเกินระดับนี้โดยเด็ดขาด
MIN คือ จำนวนน้ำมีน้อยต้องเติมให้อยู่ในระดับ MAX
3. หม้อน้ำที่มีหม้อพักน้ำสำรอง แต่ไม่มีฝาเติมน้ำโดยตรงที่หม้อน้ำ เป็นระบบใหม่ที่ใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ โดยการเติมน้ำในหม้อน้ำจะเติมได้ทางเดียวคือบริเวณหม้อพักน้ำสำรองจะไม่มี การเติมผ่านหม้อน้ำโดยตรง การดูแลระดับน้ำนั้นเป็นวิธีเดียวกับการเติมน้ำในหม้อน้ำตามแบบที่ 2 แทนที่จะต้องเติมน้ำที่หม้อน้ำด้วยก็ไม่ต้องเพราะสามารถเติมผ่านหม้อพักน้ำ สำรองได้เลย
ใน เรื่องของน้ำยากันสนิมหม้อน้ำกับน้ำยาทำความเย็นหม้อน้ำเป็นเรื่องที่คุณ ต้องตัดสินใจว่าต้องการหรือไม่ แต่ส่วนที่น่าสนใจคือ น้ำยากันสนิม เพราะภายในหม้อน้ำเป็นโลหะ ซึ่งสามารถเกิดสนิมได้ ถ้าเติมน้ำยากันสนิมอาจจะช่วยยืดอายุการใช้งานของหม้อน้ำและเครื่องยนต์ได้ ส่วนใช้ยี่ห้ออะไรนั้นต้องตัดสินใจกันเอาเอง เพราะคุณภาพในการทำงานก็ใกล้เคียงกัน แต่ต่างกันตรงที่ราคา
ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำ
สำหรับการถ่ายน้ำในหม้อน้ำนั้นก็เป็นไปตามระยะเวลาในคู่มือรถที่ให้มา ถ้าไม่มีการเกิดสนิมการถ่ายน้ำก็ยืดเวลานานขึ้น แต่ถ้าเป็นสนิมก็ต้องเร็วขึ้นเช่นกัน น้ำในระบบหล่อเย็นหรือในหม้อน้ำของรถยนต์ควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี (รถใหม่ๆ ไม่ต้องบ่อยขนาดนี้ก็ได้) ยกเว้นในกรณีที่เป็นสนิมควรเปลี่ยนถ่ายเมื่อตรวจพบ
วิธีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ
ทำได้โดยการเปิดก๊อกหม้อน้ำหรือท่อยางที่ก๊อกหม้อน้ำออก ควรเปิดฝาหม้อน้ำออกเพื่อช่วยให้น้ำถ่ายออกได้เร็วขึ้น เมื่อถ่ายน้ำหมดแล้วทำการปิดก๊อกแล้วเติมน้ำสะอาดลงไปจนเต็มตามอัตราหรือ พิกัดที่บอกไว้ ควรเติมน้ำยากันสนิมลงไปเพื่อรักษาหม้อน้ำด้วย และหากพบว่าท่อยางของท่อน้ำชำรุดควรเปลี่ยนพร้อมกันไปด้วย เมื่อเสร็จแล้วต้องลองติดเครื่อง เช็กการไหลเวียนของน้ำว่าเป็นไปตามปรกติหรือไม่ ถ้าพบรอยรั่วหรือการรั่วซึมควรให้ช่างทำการแก้ไข
เครดิต www.heremoo.com