1สาเหตุที่เครื่องเดินไม่เรียบ ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป

เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ เร่งแล้วไม่มีกำลัง โดยเฉพาะรถที่ติดแก๊สมาระยะหนึ่ง ปัญหาเหล่านี้ทำให้เจ้าของรถหงุดหงิด เนื่องจากเอาไปจูนอัพแล้วก็ยังไม่หาย อาจจะดีขึ้นแต่อาการก็ยังไม่หายขาด อาการเดินเบาไม่เรียบนั้นบางครั้งส่งผลในเรื่องของอันตรายจากการขับขี่ด้วย เช่น เบรกแล้วดับเอาดื้อๆ อาจจะทำให้เบรกไม่อยู่ หรือถูกคันหลังชนท้ายได้
        อาการนี้มันน่ารำคาญมาก และถ้าปล่อยไว้เนิ่นนานจะทำให้เครื่องยนต์โทรม รวมถึงมีความเสียหาย ในส่วนอื่นๆ มากขึ้น อาการ ‘วาล์วยัน’ เป็นอาการที่หลายคนมักจะมองข้ามไป เพราะคิดว่าไม่น่าจะเกิดได้ง่ายนัก ส่วนใหญ่จะทำการจูนอัพใหม่ ถ้าไม่หายก็ไล่เปลี่ยนไล่หาสาเหตุ ไม่นานอาการเดิมก็กลับมาอีกในช่วงไม่กี่วัน
        รถของคนรอบข้างคันหนึ่งมีอาการเดินเบาไม่เรียบ เบรกแล้วเครื่องทำท่าว่าจะดับ บางครั้งก็ดับเอาดื้อๆ รถคันนี้ติดแก๊สและใช้งานมาราว 80,000 กิโลเมตร เมื่อลองสลับไปใช้น้ำมันอาการก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับระบบแก๊สแล้ว เพราะอาการที่แสดงยังเป็นเหมือนเดิม
        เมื่อลองไล่สาเหตุพบว่า ท่ออากาศจากกรองอากาศเข้าสู่ท่อไอดีมีรอยปริขาด ทำให้อากาศรั่ว เมื่อลองเปลี่ยนแล้วอาการก็ไม่หาย ทำให้คิดย้อนกลับไป พบว่าเคยมีอาการนี้เมื่อราวปีกว่าๆ เกิดจากคอยล์จุดระเบิดตัวหนึ่งมีปัญหา อาการที่แสดงออกมาเหมือนกันมาก เมื่อลองสับเปลี่ยนคอยล์จากคันอื่นมาใส่ อาการก็ยังไม่หาย
        จากนั้นได้ลองนำตัวควบคุมรอบเดินเบาและลิ้นปีกผีเสื้อออกมาล้างทำความสะอาด อาการก็ไม่ทุเลาลงเลย อาการนี้จะว่าเป็นจากระบบน้ำมันก็ไม่ใช่ เพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้แก๊สก็ยังเป็นเหมือนเดิม เมื่อตรวจสอบประวัติแล้วพบว่ารถคันนี้ติดแก๊สเมื่อตอนรถวิ่งได้ราว 60,000 กิโลเมตร ปัจจุบันระยะทางรวมราวๆ 1.4 แสนกว่ากิโลเมตร จึงคาดว่าไม่เคยตั้งวาล์วมาก่อน

         เมื่อสอบถามก็ได้ความตามที่คาดไว้ คือไม่เคยตั้งวาล์วมาก่อนเลย เมื่อทำการตรวจเช็กระยะห่างของวาล์วตามสเปคพบว่ามีวาล์วหลายตัวยัน หมายถึงไม่มีระยะฟรีระหว่างเพลาลูกเบี้ยวกับวาล์วเลย การที่ไม่มีระยะฟรีหมายความว่าเพลาลูกเบี้ยวยังคงกดไปที่ตัววาล์ว ทำให้วาล์วปิดไม่สนิท เมื่อปิดไม่สนิทก็เกิดการรั่วของแรงดันจากห้องเผาไหม้ ทำให้กำลังเครื่องยนต์ตกและเดินไม่เรียบ
        เมื่อตั้งวาล์วใหม่ อาการดังกล่าวก็หายขาด เครื่องยนต์เดินเรียบเหมือนเดิม และกำลังที่หดหายไปก็กลับมาฟิตปั๋งเหมือนเดิม รถยนต์รุ่นใหม่ๆ แม้ว่าจะใช้วาล์วไฮดรอลิกสามารถปรับตั้งระยะห่างได้เอง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็ต้องการดูแลบำรุงรักษาเหมือนกัน
        ถ้ากลับไปดูคู่มือประจำรถจะมีบอกไว้ว่าเมื่อไหร่ควรตั้งวาล์ว แม้ว่ารถคุณจะไม่ได้ติดแก๊สแต่เมื่อถึงระยะที่กำหนดหรือเหมาะสมควรจะนำรถไปปรับตั้งวาล์ว เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มกำลังอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากอาการกำลังตกและเครื่องเดินไม่เรียบนั้น ยังมีเรื่องของการสิ้นเปลืองกว่าปกติตามมาด้วย
        สำหรับรถยนต์ที่ติดแก๊สนั้นยังมีผู้ที่เข้าใจผิดอยู่ไม่น้อยกับคำที่ว่าเมื่อใช้แก๊สแล้ว ‘เครื่องจะแห้งหรือร้อนกว่าปกติ’ อันที่จริงไม่ใช่แบบนั้น แต่การที่เครื่องยนต์มีปัญหานั้นมาจากส่วนผสมผิดพลาด จ่ายส่วนผสมน้อยไป บวกกับองศาไฟที่อ่อนหรือจุดระเบิดเร็วเกินไปต่างหากทำให้เกิดความร้อนสูงผิดปกติ การสึกหรอหรือความเสียหายก็จะเกิดขึ้นตามมา
        ความเสียหายจากส่วนผสมและองศาไฟจุดระเบิดที่ไม่เหมาะสมนั้น ทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว เช่น อาการ Back Fire ที่ย้อนกลับออกมาทางท่อไอดี ทำให้เกิดความเสียหายที่ท่อร่วมหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้
        ทำไมถึงเกิดอาการ Back Fire เกิดจากส่วนผสมที่บางเกินไปทำให้เกิดการจุดระเบิดได้เอง เมื่อถึงอุณหภูมิระดับหนึ่ง โดยไม่ต้องพึ่งพาประกายไฟ อีกอาการหนึ่งที่พบคือไฟจุดระเบิดอ่อนเกินไป ทำให้เกิดอาการชิงจุดระเบิดได้
 

มีผู้ที่เข้าใจผิดอยู่ไม่น้อยกับคำที่ว่าเมื่อใช้แก๊สแล้ว ‘เครื่องจะแห้งหรือร้อนกว่าปกติ’ อันที่จริงไม่ใช่แบบนั้น การที่เครื่องยนต์มีปัญหามาจากส่วนผสมผิดพลาด บวกกับองศาไฟที่อ่อนหรือจุดระเบิดเร็วเกินไปต่างหาก ทำให้เกิดความร้อนสูงผิดปกติ

        อาการชิงจุดระเบิดที่ว่านี้เป็นอาการต่อเนื่องมาจากการเผาไหม้ก่อนหน้านั้น การลุกไหม้ช้าในขณะที่วาล์วไอเสียยังเปิดอยู่ การจุดระเบิดจะลามไปยังท่อร่วมไอเสีย จังหวะโอเวอร์แลปเมื่อลิ้นไอดีเปิด เชื้อเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ในท่อไอเสียจะลามกลับเข้ามาในห้องเผาไหม้ เพราะจังหวะโอเวอร์แลปนั้นวาล์วไอดีกำลังเริ่มเปิด ส่วนไอเสียกำลังเริ่มปิด หมายความว่าวาล์วเปิดทั้งสองตัว เพียงแต่วาล์วไอเสียเกือบๆ จะปิดสนิทแล้ว แค่ช่องว่างเพียงเล็กน้อย ไอเสียที่ยังลุกไหม้อยู่ก็ก่อให้เกิดความเสียหายได้ เพราะจะทำให้ไอดีที่เริ่มเข้าสู่กระบอกสูบลุกไหม้ก่อนจังหวะที่เหมาะสม ทำให้เกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์ได้
       โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่ใช้แก๊สเมื่อพบว่ากำลังของเครื่องยนต์เมื่อใช้แก๊สตกลง หรือมีอาการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงผิดปกติ ลองฟังที่ปลายท่อไอเสียดูว่าเครื่องยนต์เดินเรียบปกติหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าเสียงดัง พึ่บๆ พั่บๆ เหมือนเดินไม่นิ่ง ลองเปลี่ยนไปใช้น้ำมันแล้วเปรียบเทียบกันดู ถ้าพบว่าน้ำมันเดินได้นิ่งกว่า ให้รีบนำรถไปทำการจูนอัพโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายหรือโทรมก่อนเวลาอันควร
        มีหลายสาเหตุที่ทำให้ส่วนผสมผิดพลาด ดังนั้นการนำรถไปจูนอัพให้เครื่องยนต์ทำงานได้ตามปกติถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะอุปกรณ์ทั้งหลายทั้งมวลนั้นไม่ได้ออกมาจากโรงงานโดยตรง การเข้าไปเซอร์วิสหรือดูแลรักษาตามระยะเวลาอันเหมาะสมเป็นเรื่องควรกระทำ เพื่อให้ตัวรถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

 

 

เครดิต www.gmcarmagazine.com