จำให้ดี 10 อะไหล่ตัวรถที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ
การดูแลรักษารถยนต์ สำหรับบางคนอาจดูเป็นเรื่องจุกจิก และบางครั้งอาจคิดไปเองว่า ขับมาได้ตั้งนาน ไม่ต้องดูแลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร จริงๆ แล้วความคิดแบบนี้ถือว่าผิดอย่างมาก เพราะวันใดที่มันเกิดเสียขึ้นมา ความเสียหายคงไม่ใช่น้อยๆ แน่นอน
ซึ่งอะไหล่บางตัว เมื่อถึงระยะที่กำหนด ก็ควรจะจัดการเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย อย่ารอช้า เพื่อให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากที่สุด
สำหรับอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เปลี่ยนเป็นประจำเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด มีอยู่ดังนี้
- น้ำมันเครื่อง และไส้กรองน้ำมันเครื่อง มีหน้าที่คอยช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ ซึ่งระยะเปลี่ยนถ่ายจะอยู่ที่ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร (ระยะขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันที่ใช้) แต่หากพบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท คุณสามารถเปลี่ยนก่อนที่มันจะถึงระยะได้เลย เพราะน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพแล้ว
- แบตเตอรี่ มีทั้งแบบแห้ง และแบบเปียก โดยแบบแห้งนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอะไรมากมายตลอดอายุการใช้งาน แต่ราคาจะแพงกว่า ส่วนแบบเปียกราคาถูกกว่า แต่ต้องได้รับการดูแลมากกว่า เพราะต้องคอยเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ ซึ่งควรตรวจเช็กอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2 – 3 ปี
- ไส้กรองอากาศ ทำหน้าที่ในการกรองเอาสิ่งสกปรกในอากาศก่อนที่จะเข้าไปในเครื่องยนต์ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้สิ่งสกปรกหลุดรอดเข้ามาจนทำให้เกิดการอุดตัน ทำให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง การเผาไหม้ทำได้ไม่เต็มที่ ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถนำมันมาเป่าทำความสะอาดได้ทุกๆ 3,000 – 5,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนใหม่เมื่อใช้ไปจนถึงระยะ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี
- ผ้าเบรก ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการหยุด หรือห้ามล้อ ระยะที่ควรเปลี่ยนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 50,000 – 70,000 กิโลเมตร แต่ถ้าได้ยินเสียงดังขณะเหยียบเบรก แสดงว่าถึงระยะเตือนแล้ว ให้รีบจัดการเปลี่ยนโดยทันที ไม่งั้นจานเบรกเป็นรอยแน่
- หัวเทียน ควรเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงระยะประมาณ 40,000 กิโลเมตร เพราะถ้ามันเสื่อมสภาพเมื่อไหร่ เครื่องยนต์จะทำงานได้ไม่เต็มที่ และอาจมีอาการสะดุดตามมาด้วย
- น้ำมันเกียร์ และไส้กรองน้ำมันเกียร์ ควรเปลี่ยนถ่ายเมื่อถึงระยะ 20,000 – 40,000 กิโลเมตร เพื่อยืดอายุการใช้งาน เพราะเกียร์มีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา จึงทำให้มีการสึกหรอ และเสื่อมสภาพสูง
- ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง คอยทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรกที่มาจากน้ำมันที่คุณเติม (ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล) ซึ่งถ้าหากคุณปล่อยให้ไส้กรองตัน จะทำให้สตาร์ทติดยาก เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น และมีกำลังส่งไม่พอ ส่วนระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนใหม่คือ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร (แล้วแต่รุ่นรถที่ใช้)
- หลอดไฟ ไม่ใช่แค่เฉพาะไฟหน้า ไฟท้ายเท่านั้น ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก ไฟถอยหลัง ฯลฯ ก็ไม่ควรมองข้าม ควรตรวจเช็กดูให้ดี ว่าส่องสว่างครบทุกดวงหรือไม่ หากพบเจอว่าดวงไหนขาด ก็ควรรีบจัดการเปลี่ยนทันที
- ใบปัดน้ำฝน ก่อนจะเข้าหน้าฝนในแต่ละปี ควรจัดการเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย เพราะใบปัดน้ำฝนจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องจากโดนแสงแดดมากที่สุด จนทำให้ใบปัดแข็ง ปัดไม่สะอาดเท่าเดิม หรือปัดน้ำออกได้ไม่หมด ฯลฯ
- สายพานไทม์มิ่ง ถือเป็นสายพานหลักของเครื่องยนต์บางรุ่น เมื่อใกล้ถึงระยะ 100,000 กิโลเมตร ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะหากสายพานไทม์มิ่งขาดขึ้นมา เครื่องยนต์ของคุณเสียหายรุนแรงแน่นอน
และนี่คือชิ้นส่วนหรืออะไหล่ที่จำเป็นในการเปลี่ยนเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากทำตามนี้ คุณก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานรถยนต์ให้อยู่ยืนยาวกับคุณไปได้อีกนาน
เครดิต www.sanook.com