“อะไหล่รถยนต์” ชิ้นไหน ราคาแพงที่สุด?
รถยนต์ทุกคันเมื่อผ่านการใช้งานถึงช่วงเวลาหนึ่ง หลีกเลี่ยงไม่ได้กับการต้อง “ซ่อม” ขึ้นอยู่กับว่าจะซ่อมมากหรือซ่อมน้อย และหากอะไหล่บางชิ้นซ่อมไม่ได้ ก็ไม่แคล้วต้องเปลี่ยนใหม่ รู้หรือไม่ว่าหากถึงเวลาต้องเปลี่ยนมันขึ้นมา อะไหล่ชิ้นใดมีราคาแพงที่สุด?
1. กระบอกสูบ (Cylinders) ประมาณ 300,000 บาท
เครื่องยนต์คือส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้รถวิ่งไปได้ ซึ่งส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของเครื่องยนต์คือกระบอกสูบ ทำหน้าที่เป็นช่องทางขึ้น-ลงของลูกสูบเพื่อจุดระเบิดเครื่องยนต์ ราคาโดยประมาณของกระบอกสูบจะอยู่ที่ 2-3 แสนบาท ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หากต้องถึงขั้นเปลี่ยนกระบอกสูบขึ้นมาจริงๆ เจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจขายรถคันนั้นและไปหาซื้อรถคันใหม่แทน
2. แบตเตอรี่ ไฮบริด ประมาณ 180,000 บาท
ในยุคที่รถยนต์เริ่มเข้าสู่เทคโนโลยีไฮบริด แบตเตอรี่สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดคืออุปการณ์สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่ง เพราะมันคือแหล่งรวมพลังงานเกือบทั้งหมดในการขับเคลื่อน ไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดรถยนต์รุ่นที่เป็นไฮบริดจะราคาสูงขึ้นกว่ารุ่นเครื่องยนต์ปกติในหลักแสนบาท เพราะราคาแบตเตอรี่ไฮบริดซึ่งเป็นลิเธียมไอออนราคาสูงถึงประมาณ 180,000 บาท ส่งผลให้ค่ายรถที่ผลิตรถประเภทนี้ออกมาขาย ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันแบตเตอรี่เป็นระยะเวลา 5-10 ปีเลยทีเดียว
3. ชุดเกียร์ (Transmission) ประมาณ 150,000 บาท
ระบบส่งกำลังหรือ “เกียร์” ถือเป็นชุดอะไหล่ที่มีราคาแพงลำดับต้นๆ ในรถยนต์ของคุณ โดยเฉพาะรถยนต์บางรุ่นบางยี่ห้อชุดเกียร์อัตโนมัติหากเปลี่ยนที่ศูนย์บริการจะมีราคาสูงระดับ 2 แสนบาทเลยทีเดียว ทว่าหากคิดเฉลี่ยทุกยี่ห้อออกมาแล้ว ประมาณราคาอยู่ที่ 150,000 บาท ซึ่งโดยปกติแล้วรถยนต์ 1 คัน อาจไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เลยก็ได้ตลอดอายุการใช้งาน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้เกียร์รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถบางรุ่นและบางคันเท่านั้น
4. ชุดช่วงล่าง (Suspension) ประมาณ 105,000 บาท
อีกหนึ่งส่วนสำคัญของรถยนต์คือช่วงล่าง ซึ่งตอบสนองได้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่ ระบบเบรก ระบบสมดุลของรถ ซึ่งมีผลด้านความปลอดภัย โดยชุดช่วงล่างจะมีส่วนประกอบสำคัญ อาทิ โช๊คอัพ ลูกหมากประเภทต่างๆ และชุดคันส่ง ตามปกติแล้วสามารถแยกซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่แต่ละชิ้นได้ แต่หากต้องเปลี่ยนช่วงล่างยกชุด ราคาจะประมาณอยู่ที่ 105,000 บาท เลยทีเดียว
5. เพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) ประมาณ 50,000 บาท
หลายคนอาจจะคุ้นเคยคำว่า Camshaft ซึ่งคำในภาษาไทยเรียกอะไหล่ชิ้นนี้ว่า “เพลาลูกเบี้ยว” ทำหน้าที่ปิดเปิดลิ้นไอเสีย และเคลื่อนที่ด้วยเฟืองที่ขบกับเฟืองของเพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งเมื่อการใช้งานผ่านไปเพลาลูกเบี้ยวจะมีเศษสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ถือเป็นการรักษาอะไหล่ชิ้นนี้ไปในตัว แต่หากเพลาลูกเบี้ยวแตก ก็หมดสิทธิ์ซ่อม ต้องเปลี่ยนสถานเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วราคาของมันอาจจะไม่แพงมาก แต่ขั้นตอนในการเปลี่ยนค่อนข้างยุ่งยาก เมื่อรวมค่าแรงแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท
เครดิต www.sanook.com