รถลุยน้ำ & รถจมน้ำ

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการทำความเข้าใจว่า การซ่อมแซมให้กลับมาสภาพเดิม 100% นั้นไม่สามารถทำได้ อย่างดีที่สุดก็จะได้แค่ 90% โดยมีขั้นตอนและรายละเอียดการซ่อมดังนี้

กรณีรถจมน้ำ

  1. ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ (เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าเข้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆของรถ จนเกิดลัดวงจรเสียหายได้)-ถอดแบตเตอรี่ออก (ถอดขั้วลบ)
  2. ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าและกล่องสมองกล (แผงฟิวส์, กล่องรีเลย์, ECU)-ถอดออกมาไล่น้ำเป่าลม ฉีดสเปร์ยไล่ความชื้น ตากแดด
  3. ตรวจเช็คแบตเตอรี่-เช็คแรงดันไฟและระดับน้ำกลั่น (หากพบว่ามีน้ำปนและแรงดันไฟต่ำกว่ามาตรฐาน แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่)
  4. ตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์ และทดสอบสตาร์ท ดังนี้
  • หม้อกรอง-เป่าน้ำและโคลนออก, เช็คเซ็นเซอร์, ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ, ไล่ความชื้นในเครื่องยนต์, ไล่ความชื้นกระบอกสูบ
  • ไล่ความชื้นระบบจุดระเบิด
  • เครื่องดีเซล-ถอดหัวฉีดออก-ไล่ความชื้นและทำความสะอาด
  • เครื่องเบนซิน-ถอดหัวเทียนออก-ไล่ความชื้นและทำความสะอาด (คอยล์-จานจ่าย-สายหัวเทียน-ปลั๊กหัวเทียน)
  • ทดสอบสตาร์ท โดยบิดกุญแจสตาร์ทไปจังหวะแรกค้างไว้ก่อน (เพื่อตรวจมาตรวัดต่างๆ, หากไฟแสดงระบบใดไม่ทำงานให้ตรวจสอบที่ห้องเครื่องว่ามีความร้อนหรือควันเกิดขึ้นหรือไม่) หลังจากนั้น ลองสตาร์ทเครื่อง (โดยยังไม่ใส่หัวเทียนแล้วดูว่ามีน้ำพ่นออกจากรูหัวเทียนเมื่อเครื่องหมุนหรือไม่ หากมีทำการสตาร์ทต่อไปจนน้ำถูกพ่นออกมาหมด แล้วใส่หัวเทียนใหม่กลับเข้าที่)

หากไม่สามารถสตาร์ทได้ต้องส่งเข้าอู่ซ่อมเครื่องยนต์ เพื่อตรวจสอบโดยละเอียดที่ (เครื่องยนต์, ปั๊มหัวฉีด, กล่องECU)
หากสตาร์ทเครื่องยนต์ได้แล้ว ทำการตรวจเช็คต่อเสมือนกรณีรถลุยน้ำมา

กรณีรถลุยน้ำ

  1. เปลี่ยนถ่ายของเหลว และไส้กรองต่างๆ (ควรเปลี่ยนทันที)
  • น้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่อง ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกดู ถ้าระดับน้ำมันเครื่องสูงกว่าปกติแสดงว่ามีน้ำปนเข้าไป (สีของน้ำมันจะเปลี่ยน)
  • น้ำมันเกียร์, เฟืองท้าย, น้ำมันเบรก, น้ำมันพาวเวอร์, น้ำยาหม้อน้ำ (ทำความสะอาดรังผึ้ง เอาโคลนและสิ่งสกปรกออก) สำหรับน้ำมันเกียร์ออโต้ให้ปล่อยก้นแท็งค์เอาน้ำออกก่อนแล้วใช้ระบบล้างเกียร์เพื่อให้น้ำมันเก่าออกหมด
  • กรองดักน้ำ, กรองเชื้อเพลิง (กรองเบนซิน,กรองโซล่า), กรองอากาศ และกรองแอร์
    * น้ำมันเชื้อเพลิง (คลายน็อตหลวมๆดูว่ามีน้ำไหลออกมาไหม น้ำจะอยู่ด้านล่างของถัง แล้วจะไหลออกมาก่อน)

2. เช็คระบบเกียร์-คลัตช์ (ทดสอบรถ)

  • หากเข้าเกียร์ยาก (เกียร์ธรรมดา) แสดงว่ามีน้ำในระบบคลัตช์ หรือมีสนิมจับในระบบ

3. เช็คระบบเบรก (ถอดเช็ค)

  • เบรกลื่น, เนื้อเบรกแยกชิ้น, เบรกติด (ให้เช็คสนิมในระบบเบรก, ลูกยางต่างๆ, การเคลื่อนตัวของลูกสูบ)

4. หล่อลื่น, เปลี่ยนจารบี-ลูกปืนล้อ-หัวเพลาขับ-เพลากลาง-ลูกปืนกากบาท-ลูกหมาก

5. ตรวจเช็คสายพาน

6. ตรวจน้ำที่เหลือในห้องโดยสาร และระบบส่องสว่าง

  • ที่เขี่ยบุหรี่, ที่ใส่เศษสตางค์, หน้าปัด, มาตรวัดต่างๆ, แผงวงจรต่างๆ, ถอดซักเบาะ พรม (จอดตากแดดจัดๆ), น้ำขังตามโคมไฟ

7. ตรวจระบบแอร์

  • แอร์มีกลิ่นอับหรือไม่
  • เช็คคลัตช์คอมแอร์

เครดิต www.qct-auto.com