เทคโนโลยี “รถ EV” จะไปหยุดที่จุดไหน?
แม้รถพลังงานไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) จะยังไม่ขึ้นมาเป็นยานพาหนะกระแสหลักของโลก และคาดกันว่าจะต้องใช้เวลาอีก 40 ปี กว่าที่จะทำยอดขายเหนือรถเครื่องยนต์สันดาป ทว่าการพัฒนารถ EV ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง น่าสนใจว่าในอนาคตรูปโฉมและเทคโนโลยีในรถประเภทนี้จะถูกพัฒนาไปขนาดไหน?
แต่งเสียงเครื่องยนต์เทียม
รถ EV ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดปัญหาเรื่องมลภาวะทั้งทางอากาศและทางเสียง อย่างไรก็ดีในบางครั้งเสียงของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เบาเกินไปในช่วงความเร็วต่ำก็อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของคนรอบข้างได้เช่นกัน อาทิ ไม่ได้ยินเสียงรถที่กำลังขับมาขณะเดินเท้า และนำไปสู่อุบัติเหตุได้
ฉะนั้นค่ายผู้ผลิตรถ EV ก็เตรียมพัฒนาเสียงเครื่องยนต์หลอกขึ้นมาในอนาคต โดยจะให้ผู้ซื้อสามารถเลือกรูปแบบของเสียงได้ว่าอยากได้เสียงเครื่องยนต์แบบไหน แต่จะต้องไม่ดังจนเกินไป ทั้งนี้นอกจากเพิ่มความปลอดภัยแล้ว ยังเพิ่มยกระดับอารมณ์ของผู้ขับขี่ไปในตัวได้อีกด้วย
เทคโนโลยี 5G เป็นตัวขับเคลื่อน
เทคโนโลยีด้านการสื่อสารระบบ 5G กำลังจะเข้ามามีบทบาทกับสมาร์ทโฟนในอนาคต ขณะเดียวกันมันจะมีบทบาทสำคัญต่อรถ EV ด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบัน ค่ายโทรศัพท์มือถืออย่าง AIS ได้ทำการทดลองการควบคุมการขับรถผ่านการสื่อสารทางไกลระแบบ 5G เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
pixabay.com
โดยในอนาคต คุณสามารถใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อกับรถยนต์ และบังคับผ่านระบบ 5G ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนของประเทศก็ตาม อาทิ รถของคุณอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่คุณอยู่ในกรุงเทพฯ คุณสามารถบังคับรถคันนั้นได้ผ่านเทคโนโลยีทางไกลได้เพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น
รถไร้คนขับ
ปัจจุบันมีรถ EV บางยี่ห้อที่เริ่มนำระบบ Autopilot มาติดตั้งในรถยนต์ ซึ่งแม้ว่าในช่วงเริ่มต้น จะมีข่าวอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้าง แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เพราะเป้าหมายสำคัญของรถไร้คนขับก็คือการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากความเร็วที่ควบคุมได้ รวมถึงอำนวยความสะดวกต่อผู้สูงอายุรวมถึงผู้ที่พิการทางร่างกายได้เช่นกัน
ทั้งนี้ในอนาคตเทคโนโลยีดังกล่าวน่าจะมีส่วนของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันยังจะมีระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับรถคันอื่นบนท้องถนนเพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้จะต้องเกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยี และความเร็วของการสื่อสาร อยู่ในระดับที่เสถียรในทุกๆ พื้นที่แล้วเท่านั้น
พลังแสงอาทิตย์เสริมพลังไฟฟ้า
เทคโนโลยีพลังแสงอาทิตย์ อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ของโลกใบนี้ แต่การเชื่อมพลังงานจากดวงอาทิตย์เข้าสู่พลังงานแบตเตอรี่รถยนต์กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการผลิตรถ EV เพราะจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางของพลังงาน นอกเหนือจากการชาร์จไฟฟ้า และพลังงานที่จากการเบรกในแต่ละครั้ง
โดยเมื่อช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา มีค่ายรถอิสระที่ชื่อว่า The Lightyear One ได้คิดค้นรถต้นแบบที่สามารถนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาทำงานร่วมกับพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลส์ไว้ที่ฝากกระโปรงหน้า และหลังคา และมีแผนที่จะทำตลาดอย่างเป็นทางการในปี 2021 นี้
ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
ชิ้นส่วนสำคัญที่ยังทำให้รถ EV มีราคาแพง และยากที่คนทั่วไปจะเอื้อมถึงได้ยากในชั่วโมงนี้คือราคาต้นทุนของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ยกตัวอย่างรถ EV 1 คัน ครึ่งหนึ่งของราคาจะมาจากต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน รวมถึงปัจจุบันในบ้านเราก็ยังไม่มีเอกชนเจ้าไหนที่กล้าลงทุนอย่างจริงจัง
ฉะนั้นสิ่งที่จะทำการราคารถ EV ถูกลง ก็คือการพัฒนาคุณภาพและราคาของแบตเตอรี่ให้ถูกลง รวมถึงการยืดอายุการใช้งานเนื่องจากมีข้อมูลระบุว่า แบตเตอรี่ของรถ EV จะมีการเสื่อมสภาพเรื่องของความจุไป 1 เปอร์เซ็นต์ ทุกๆ การใช้งาน 30,000 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตปัญหานี้จะหมดไปได้อย่างแน่นอน
เครดิต www.sanook.com