เปิดเลนพิเศษกันเอง ผิดทั้งกฎหมาย-รถติดหนัก กลับช้ากว่าเดิม
ไม่ว่าใครก็อยากถึงที่หมายกันเร็วๆ การเจออุปสรรค์ในระหว่างการขับขี่อย่าง “รถติด” จะเป็นปัญหาที่เจอกันอยู่เป็นประจำ และมักจะเจอกันหลากหลายสาเหตุ แต่หากผู้ขับขี่ทำการขับขี่อย่างเรียบร้อย มีวินัย ก็จะช่วยลดปัญหารถติดได้ แต่ถ้าเกิดผู้ขับขี่บางคนขับรถไหล่ทาง หรือเส้นเลนสวนที่มีปริมาณรถยนต์ค่อนข้างน้อยเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่โล่ง พอมีคนนำ ก็ต้องมีคนตาม สุดท้ายกลายเป็นการสะสมปริมาณรถยนต์บนถนนมากขึ้นจนเกิดความแออัด และทำให้รถที่วิ่งสวนทางไม่สามารถไปได้ กลายสภาพเป็นคอขวด หรือที่เรียกกันว่า “เปิดเลนพิเศษ”
เคสเปิดเลนพิเศษ พบเห็นได้อยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ถนนในเมือง ไปจนถึงถนนตามต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่าล่าสุดที่เหตุการณ์เปิดเลนพิเศษจนทำให้เกิดการรถติดหนักนานนับชั่วโมง เกิดขึ้นที่ทางหลวงหมายเลข 348 ช่องตะโก ที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนส่วน ได้ทำการวิ่งรถแทรกไหล่ถนน และวิ่งรถสวนเลนอีกฝั่ง จนทำให้เกิดความแออัดยิ่งขึ้น เปลี่ยนจากถนน 2 เลนปกติ กลายเป็นถนนวันเวย์ 4 เลน ส่งผลทำให้รถวิ่งสวนเลนไม่ได้จนเกิดการติดขัดอย่างหนักแล้ว ทำให้รถหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือ หรือรถพยาบาลไม่สามารถเข้าไปได้
แม้ในที่สุดปัญหาจราจรในพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 348 ช่องตะโกก็ได้รับการจัดการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดเลนพิเศษโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังสามารถพบเจอได้บ่อย ๆ ซึ่งการกระทำลักษณ์ดังกล่าวมีความผิดกฎหมายจราจรทางบก พ.ศ. 2522 หลายกระทงด้วยกัน อาทิ
มาตรา 33 ในการขับรถ ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ ยกเว้นในกรณีที่ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร หรือทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึงหกเมตร
มาตรา 41 ทางเดินรถใดที่มีเครื่องหมายจราจรให้เป็นทางเดินรถทางเดียว ให้ผู้ขับขี่ขับรถไปตามทิศทางที่ได้กำหนดไว้
โดยบทลงโทษดังกล่าวจะมีค่าปรับตั้งแต่ 200 บาท และปรับไม่เกิน 500 บาท รวมไปถึงบังคับใช้ควบคู่กับมาตรา 43 (8) ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ข้อหาฐานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท ร่วมด้วย
เครดิต www.mthai.com