2JZ-GTE ทำไม ขุมพลังบล็อคนี้ จึงได้ชื่อว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล!!
ในวงการมอเตอร์สปอร์ต หรือวงการ รถแข่ง รถแต่ง รถซิ่ง สิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ หัวใจหลักของความแรง ที่เราเรียกกันว่า เครื่องยนต์ ที่ประจำการอยู่ในรถเหล่านั้น ซึ่งคุณสมบัติอย่างหนึ่งของเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน คงหนีไม่พ้นเรื่องของสมรรถนะ พละกำลัง หรือความแรง เพราะแน่นอนว่า สิ่งที่เรียกว่าความแรงนี้ เป็นปัจจัยหลังที่ช่วยเติมความได้เปรียบในการแข่งขัน ยิ่งเครื่องยนต์ยิ่งแรง (ในกรณีที่สามารถเซ็ตองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างลงตัวและเท่าเทียมกัน) ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ว่า ความแรงที่เหนือกว่านั้น จะเป็นไม้ตายที่ช่วยให้การเผด็จศึกคู่แข่ง ทำได้ง่ายและมีความเด็ดขาดมากกว่านั่นเอง
2JZ-GTE VVTi ใน Toyota Aristo
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเครื่องยนต์มากมายเป็นเป็นพันๆ หมื่นๆ บล็อค ในหลากหลายชนิดและรูปแบบ เช่น เบ็นซิน ดีเซล ไฮบริด จากหลากหลายผู้ผลิตทั้งในญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา ซึ่งเครื่องยนต์แต่ละบล็อคนั้น (หรือแม้แต่บล็อคเดียวกัน แต่ต่างรูปแบบ) ก็มีพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป ส่งผลโดยตรงต่อเรื่องของสมรรถนะ ที่ก็ย่อมมีมาก มีน้อย ลดหลั่นกันกันไปวัตถุประสงค์ในการออกแบบและใช้งาน โดยหากคุณเป็นคนที่ติดตามข่าวสารในวงการความแรง วงการมอเตอร์สปอร์ต วงการรถแข่ง รถแต่ง รถซิ่ง มาอย่างยาวนาน คงจะพอคุ้นชื่อของเครื่องยนต์ในรหัส 2JZ-GTE จากค่าย Toyota ที่แม้จะทำออกมานานกว่า 2 ทศวรรษ แต่ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนทำให้คนรุ่นใหม่ ที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับขุมพลังบล็อคนี้ เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเครื่องยนต์ที่เรียกกันว่า 2JZ-GTE จึงได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล ?
Toyota Aristo
Toyota Supra JZA80
พูดแล้วก็ยังเสียดายแทนนักเล่นรุ่นใหม่ ที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส กับสิ่งมหัศจรรย์ที่มีชื่อว่า 2JZ-GTE โดยเครื่องยนต์บล็อคนี้ ถือว่าเป็นบล็อคสร้างชื่อของค่าย Toyota มาตั้งแต่ช่วงต้นของยุค 90 เริ่มที่ Toyota Aristo ในปี ค.ศ.1991 ก่อนจะนำมาต่อยอดกับ Toyota Supra JZA80 (ปัจจุบันยังมีประจำการอยู่ในรถแข่งชั้นนำหลากหลายสำนัก) ซึ่งอันที่จริงแล้ว เครื่องยนต์ในรหัส 2JZ มีอยู่หลากหลายรุ่นย่อย ไม่ได้พ่วงท้ายด้วย GTE (แค็มคู่ หัวฉีด ทวินเทอร์โบแบบ Sequential (เทอร์โบลูกแรกทำงานที่รอบต่ำ ส่วนรอบสูงเทอร์โบทั้ง 2 ลูก ทำงานพร้อมกัน)) เพียงบล็อคเดียวเท่านั้น แต่ยังมีรหัสพ่วงท้ายด้วย GE (แค็มคู่ หัวฉีด ไม่มีเทอร์โบ), GE VVTi (แค็มคู่ หัวฉีด ไม่มีเทอร์โบ มีระบบวาล์วแปรผันที่ฝั่งไอดี เริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1997), FSE D-4 (แค็มคู่ หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น ไม่มีเทอร์โบ) หรือแม้แต่ GTE VVTi (แค็มคู่ หัวฉีด ทวินเทอร์โบแบบ Sequential และมีระบบวาล์วแปรผันที่ฝั่งไอดี) โดยทุกบล็อคมาในพื้นฐานเดียวกัน (ต่างที่วัสดุที่มีความทนทาน รวมถึงฝาสูบที่แตกต่างกันไป ตามระดับพละกำลัง) คือ เป็นเครื่องยนตืแบบ 6 สูบแถวเรียง พิกัดความจุ 3.0 ลิตร (2,997 ซีซี.) เสื้อสูบทำจากเหล็กหล่อ ออกแบบระยะชักและขนาดของลูกสูบในแบบ Square คือ มีขนาดเท่ากันที่ 86 x 86 มม.
ที่สุดของโลกต้องยกให้ลูกพี่ Kawabata
Toyota Supra A90 ขุมพลัง 2JZ-GTE ตัวแรงจากสำนัก HKS
Daigo Saito หนึ่งในนักดริฟท์จาก D1 GP ที่ชอบเครื่องยนต์ 2JZ-GTE เอามากๆ
แม้ว่าอายุอานามร่วม 3 ทศวรรษ แต่สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ 2JZ-GTE ยังคงได้รับความนิยมในแวดวงการแข่งขันระดับโลก ณ ปัจจุบัน เช่น การแข่งขันในรายการ D1 GP ที่รถยุคใหม่ๆ อย่าง Supra A90 หรือ 86 ยังต้องวาง 2JZ-GTE, การแข่งขัน Drag ในประเทศไทย (รถ Drag ไทย ถือว่าเร็วระดับต้นๆ ของโลก รถ Dragster หลากหลายสำนักก็เลือกที่จะใช้เครื่องยนต์ 2JZ-GTE เช่นกัน) คงหนีไม่พ้นเรื่องของพละกำลัง ที่สร้างความเร้าใจได้ไม่เป็นรองเครื่องยนต์ในยุคใหม่ๆ แม้ว่าจะออกมานานแล้วก็ตามที่ ด้วยต้นทุนที่ดีที่สามารถผลิตกำลังออกมาให้ใช้งานถึง 280 ตัว ที่ 5,600 รอบ/นาที) (ตามที่กฏหมายในญี่ปุ่นยุคนั้นกำหนดไว้ ส่วนเครื่องยนต์ 2JZ-GTE ที่เป็น UK Spec สามารถทำแรงม้าได้ที่ 320 ตัว จากโรงงาน) และให้แรงบิดสูงถึง 44.3 กก.-ม. (46 กก.-ม. สำหรับรุ่นไมเนอร์เชนจ์) ในรอบต่ำ (4,000 รอบ/นาที) ส่งผลในเรื่องการตอบสนองที่ดี ด้วยพื้นฐานด้านความจุกระบอกสูบ รวมถึงเลย์เอาท์ในรูปแบบ Square
ของเล่นเพียบ จะแต่งแรง แต่งสวย…จัดไปตามต้องการ
นอกจากต้นทุนในเรื่องของพละกำลังที่ดีแล้ว เครื่องยนต์บล็อค 2JZ-GTE ยังมีจุดเด่นที่เรื่องของความทนทาน ด้วยพื้นฐานที่ดีเป็นเลิศ เสื้อสูบเหล็ก ลูกสูบเซมิฟอร์จ สแตนดาร์ดจากโรงงาน ทำให้สามารถรองรับการโมดิฟายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน ว่ากันว่า ท่อนล่างเดิมๆ ของเครื่องยนต์บล้อคนี้ สามารถรองรับการโมดิฟายได้ถึง 500 แรงม้า ได้แบบสบายๆ แต่สำหรับยุคนี้ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีในด้านองค์ประกอบที่มีคุณภาพสูงขึ้น ต้องบอกว่า แรงม้าในระดับ 700 ตัว จากท่อนตรง (เสื้อและฝาสูบ) เดิมๆ 2JZ-GTE นั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยความเข้าใจและเทคนิคการเลือกใช้เครื่องเคียงที่มีความเหมาะสม เช่น การเลือกใช้เทอร์โบ, ระบบเชื้อเพลิง และศักยภาพภาพการประมวลผลของกล่อง ECU ในยุคปัจจุบัน ช่วยให้การอัพพละกำลัง ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น หรือถ้าอยากไปให้สุด อุปกรณ์ในการโมดิฟายเครื่องยนต์บล็อค 2JZ-GTE ก็ถือได้ว่า เป็นเครื่องเคียงที่สามารถหาได้ทั่วไปจากหลายๆ สำนักแต่งชั้นนำ ที่ยังคงผลิตมาเพื่อต่อยอดอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่โอเวอร์จนเกินจะเข้าถึง ซึ่งในปัจจุบันมีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งของแต่งจากญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่จีน ที่ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย สามารถปั่นแรงม้าในระดับกว่า 1,000 ตัว ออกมาให้ใช้ได้ไม่ยาก
Toyota Fotuner ตัวแข่ง Drag พิกัด 8.x วินาที กับขุมพลัง 2JZ-GTE
หน้าตาเดิมๆ เติมเครื่องเคียงนิดๆ แรงแบบไม่ต้องคิดเยอะ
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ 2JZ-GTE ได้รับความนิยมในการแข่งขัน นอกจากเป็นเครื่องยนต์โมดิฟายได้ง่าย มีความทนทานสูง ก็คือ เป็นเครื่องยนต์ที่มีราคาไม่สูงนัก หากในยุคก่อนๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เครื่องยนต์บล็อค 2JZ-GTE ราคาตกลงมาอย่างน่าใจหายแตะหลัก 3-40,000 บาท ในยุคที่เครื่องมือสองจากประเทศญี่ปุ่นล้นตลาด แต่ในยุคปัจจุบันที่นักเล่นเริ่มกลับมาเห็นคุณค่า บวกกับเป็นเครื่องยนต์ที่หาได้ยากแล้ว ส่งให้ค่าตัวของ 2JZ-GTE แตะหลักแสนอีกครั้ง และเชื่อว่าอีกไม่นาน เครื่องยนต์บล็อคนี้จะเป็นเพียงแรร์ไอเท่มที่พร้อมก้าวสู่ความเป็นเครื่องยนต์ระดับตำนานได้อย่างเต็มตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ เหตุผลที่ทำให้ เครื่องยนต์ 2JZ-GTE ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดตลอดกาล !
เครดิต www.boxzaracing.com