เกจ์วัด Volt ติดแล้วได้ประโยชน์อะไร ?

วันนี้จะมานำเสนอหน้าที่การทำงานของ เกจ์วัด Volt ว่าทำหน้าที่อะไร ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ? มาๆ วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันเรื่องตรงนี้กัน

โดยหน้าที่หลักๆ ของเกจ์วัด Volt  คือ การบอกค่าของ “ความต่างศักย์” หรือ แรงเคลื่อนไฟฟ้าในแบตเตอรี่ มีหน่วยเป็น Volt โดยแบตเตอรี่มีหน้าที่เก็บกระแสไฟฟ้าเอาไว้ ซึ่งหากมีการสตาร์ทก็จะส่งกระแสไฟไปยังมอเตอร์สตาร์ท นอกจากนี้ยังนำกระแสไฟไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าในกรณีที่กระแสไฟไม่พอ ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของแบตเตอรี่ โดยความต่างศักย์ในรถยนต์ที่เราใช้งานกันจะอยู่ที่ 12 Volt ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับรถที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ถ้าความต่างศักย์ในแบตเตอรี่ไม่ถึง 12 Volt ก็จะทำให้แรงเคลื่อนไฟไม่พอไปปั่นมอเตอร์สตาร์ท ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด

แล้วเราจะรู้ได้ไงล่ะ ว่ากระแสไฟในแบตเตอรี่มีอยู่เท่าไหร่และพอใช้ไหม ? เพราะถ้าสังเกตที่ตัวแบตเตอรี่ก็จะบอกแค่ว่า ไฟเต็ม ไฟอ่อน ไฟไม่มี ถ้าเราไม่ได้เปิดฝากระโปรงดูเราก็จะไม่สามารถรู้ได้ และบางครั้งเปิดฝาประโปรงขึ้นมาเพื่อดูแบตเตอรี่ก็ขึ้นค่าที่ตาแมวว่า ไฟอ่อน แล้วที่นี้…เราจะทำอย่างไรดีล่ะ จะต้องใช้รถแล้วด้วย

ไม่ยากเลย…ติดเกจ์วัด Volt เข้าไป จะสามารถช่วยเรื่องการบอกค่าของ แรงเคลื่อนไฟฟ้า ในตัวแบตเตอรี่ได้ อย่างที่รู้กันว่า แรงเคลื่อนไฟฟ้า ที่ใช้ในรถยนต์เป็นไฟ 12 Volt ถ้าแรงเคลื่อนไฟฟ้าขณะบิดกุญแจ ON อยู่ที่ประมาณ 12.3-13.5 Volt เมื่อดูจากเกจ์วัด Volt ที่เราติดเข้าไป เราก็สามารถจะสตาร์ทรถได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้ากระแสไฟต่ำกว่า 12.3 Volt ลงมา อาการในการสตาร์ทรถก็จะเริ่มเปลี่ยนไปในทันที จากที่เคยสตาร์ทครั้งเดียวติด อาจจะต้องบิดกุญแจค้างเอาไว้นานหน่อย กว่าเครื่องจะติด ซึ่งเป็นหนึ่งอาการของแบตเตอรี่ไฟไม่พอ หรือ แรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำเกินไป

โดยทั่วๆ ไปแบตเตอรี่ที่สภาพสมบูรณ์สามารถเก็บไฟได้ดี หลังจากที่เราใช้รถทั่วๆ ไป แล้วจอดทิ้งไว้ครึ่งวัน หรือ 8 ชั่วโมง ความต่างศักย์จะตกไม่เกิน 0.5 Volt จากค่าที่อ่านได้จากเกจ์วัด Volt ก่อนที่เราจะดับเครื่อง คือ ก่อนที่เราจะดับเครื่องยนต์ความต่างศักย์ที่เราอ่านได้อยู่ที่ 12.8 Volt จอดทิ้งไว้ครึ่งวัน ความต่างศักย์ต้องตกลงมาไม่เกิน 12.3 หรือ 12.4 Volt แต่ถ้าตกลงมาเกินไปกว่านั้น แต่ยังอยู่ในย่าน 12 .1 Volt แสดงว่าแบตเตอรี่ของคุณเริ่มจะมีปัญหาแล้ว เราลองสังเกตดูสัก 2-3 วัน ถ้าความต่างศักย์ยังตกอยู่เรื่อยๆ ควรที่จะเอารถเข้าไปเช็คแบตเตอรี่ได้แล้ว แต่ถ้าค่า Volt ที่อ่านได้จากเกจ์วัด Volt อยู่ที่ 11 Volt ไม่ต้องห่วงเลยครับ…เครื่องคุณสตาร์ทไม่ติดแน่นอน

นอกจากจะบอกค่าของความต่างศักย์ที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ได้แล้ว เกจ์วัด Volt ยังบอกเราได้ด้วยว่า ไดชาร์จ ของเราสภาพเป็นอย่างไรบ้าง อยากที่เรารู้หลักการทำงานของแบตเตอรี่คือ ส่งกระแสไฟเข้าสู่มอเตอร์สตาร์ท เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ และทำหน้าที่เก็บกระแสไฟที่ส่งมาจากไดชาร์จ โดยทั่วๆ ไป เวลาที่เราสตาร์ทรถ ค่าไฟที่จะชาร์จแล้วเก็บเข้ามาที่แบตเตอรี่ควรที่จะอยู่ที่ประมาณ 12.5-14.5 Volt แต่ถ้าค่าของความต่างศักย์ที่เราอ่านได้ อยู่ที่ประมาณ 15 หรือ 16 Volt แสดงว่าไดชาร์จของเราชาร์จไฟเยอะเกินไป หรือถ้าสตาร์ทเครื่องปกติแล้ว ค่าของกระแสไฟอยู่ที่ประมาณ 12.1-12.3 Volt แสดงว่า ไดชาร์จของเราอาจจะมีปัญหาหรือเสื่อมสภาพได้ ถ้าเราติดตั้ง เกจ์วัด Volt เข้าไป เราก็จะสามารถทราบปัญหาของอุปกรณ์เหล่านี้ได้ และทำให้เราสามารถแก้ปัญหา ซ่อมแซม ได้ทันท่วงที

นี่คือ ประโยชน์ของเกจ์วัด Volt ที่ไม่ได้ติดเอาไว้แค่สวยงามอย่างเดียว ในปัจจุบันนี้เกจ์วัด Volt มีทั้งเป็นแบบเข็ม เป็นแบบดิจิตอล บางรุ่นก็จะมีการแจ้งเตือนเป็นสัญญาณเสียง สัญญาณไฟด้วย บางทีก็เป็นหน้าจอที่เสียบเข้ากับปลั๊ก OBD-II ได้เลย ส่วนจะติดตั้งแบบไหนก็แล้วแต่เพื่อนๆ จะชื่นชอบ

 

 

เครดิต www.boxzaracing.com