10 เทคโนโลยีในรถยนต์ที่มาไกลมาก!

รถยนต์ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ทำให้การขับขรถยนต์ไปไหนมาไหน สบายขึ้นและฟังก์ชั่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาก็เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น เรียกว่า บางระบบแทบจะช่วยขับให้อัตโนมัติเลย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่างต่างกับรถยนต์เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปี อย่างมากมาย มาดูว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มีอะไรบ้าง?

1. ระบบรีโมทสตาร์ท

ในสมัยก่อนใครจะคิดว่าไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งก็คือใช้ปุ่มกด แต่หลังจากนั้่นไม่นานก็มีระบบรีโมทสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ในระยะไกล พร้อมเปิดระบบปรับอากาศให้พร้อมต่อสู่กับอากาศร้อนที่โดหดร้ายได้อย่างสบาย ๆ รถยนต์ที่มีระบบรีโมทสตาร์ทในประเทศไทย เช่น All-New Isuzu D-MAX, Honda Civic /Accord ใหม่, Chevrolet Trailbrazer/Colorado หรือว่า MG ที่ผ่านการสั่งงานด้วย Application I-SMART เป็นต้น

2. ระบบเชื่อมต่อรถยนต์-คำสั่งด้วยเสียง

หากย้อนไป 10 กว่าปี คงจำได้ว่า หากต้องใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจะต้องเชื่อมต่อกับชุดหูฟังทั้งแบบสายหรือบลูทูธ เป็นประจำ เพื่อให้สะดวกในการขับขี่และไม่ต้องเสียมือควบคุมพวงมาลัยไปหนึ่งข้างเพื่อยกโทรศัพท์ ปัจจุบันระบบความบันเทิงรวมถึงการเชื่อมต่อหน้าจอกับสมาร์ทโฟน สามารถลิงค์กัยระหว่างหน้าจอวิทยุกับมือถือได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้รับ-วางสายโทรศัพท์เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟังก์ชั่น ดูหนัง (อันนี้ไม่แนะนำให้คนขับดู) ฟังเพลง เปิด Google Map ได้เลย และรถยนต์บางรุ่นมีระบบ “สั่งการด้วยเสียง” สะดวดกมากขึ้น แต่ว่าต้องทดลองใช้งานจนคุ้นเคยก่อนจึงจะทำให้ใช้งานได้สะดวกไม่สะดุดและปลอดภัย

3. แอร์อัตโนมัติพร้อมแยกปรับซ้าย-ขวา

เทคโนโลยีนี้อาจดูไม่ค่อยจำเป็นนัก แต่หากมีไว้แล้วก็นับว่าช่วยเพิ่มความสะดวกได้มาก อย่างเช่น ผู้โดยสารฝั่งซ้ายขี้ร้อน-แต่คนขับขี่หนาว ก็สามารถแยกปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ลดโอกาศทะเลาะกันในรถได้อย่างลงตัว ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่เป็นแบบสวิตช์มือปรับทั้งเป็นแบบเลื่อนซ้าย-ขวา หรือ แบบหมุน สิ่งหนึ่งที่เจอกันบ่อย ๆ คือ แย่งกันปรับระบบความเย็นตามความต้องการแต่ละคน ดังนั้นระบบปรับอากาศอัตโนมัติหรือว่าแอร์ออโต มีไว้ก็ดีกว่าไม่มีนั่นแหละครับ

4. ระบบไฟหน้าปรับองศาอัตโนมัติ

มาถึงไฟหน้าที่สมัยก่อนก็มีเพียงแค่ เปิดและปิดเท่านั้น แต่ในปัจจุบันรถยนต์หลายรุ่นเริ่มมีระบบทั้งเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ระบบปรับองศาสูง-ต่ำ และล่าสุดมีเพิ่มมาอีกนั่นคือ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติในกรณีที่มีรถยนต์ส่วนทางมาขณะเปิดไฟสูง และระบบปรับองศาลำแสงซ้ายหรือขวาอัตโนมัติ นับว่าคนขับแทบจะไม่ต้องทำอะไรเองแล้ว ระบบในรถยนต์จะดูแลบแทนแทบทั้งหมด ซึ่งก็นับเป็นข้อดีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในเวลาค่ำคืน แต่ถ้าผู้ขับขี่เคยขับรุ่นที่มีระบบนี้แล้วเปลี่ยนไปขับรุ่นที่ไม่มี ก็มักจะลืมเปิดไฟหน้าเวลากลางคืนกลายเป็นข้อเสียที่อันตรายไม่น้อยครับ

5. ระบบเตือนการชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ นับว่าเป็นสิ่งที่ ว้าวมาก ๆ ในระยะ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เพราะใครจะคิดว่า ขับรถอยู่แล้วเกิดมีรถเบรกอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ทันตั้งตัวแล้วรถยนต์ก็มีเสียงเตือนให้ และบางรุ่นยังชลอความเร็วและหากคนขับไม่แตะเบรก ระบบก็จะช่วยเบรกให้อีก! อะไรจะสบายขนาดนี้ ซึ่งระบบนี้นับว่าดีงามมาก เพราะเหมาะกับสภาพการจราจรในไทยที่ติดขัด เร่งแล้วเบรก เบรกแล้วก็เร่งสลับไปมา จนบางทีคนขับอาจเผลอเลอได้ หรือในยุค Social Network ขับไปพิมพ์ไป แม้ว่าจะผิดกฏจราจร แต่ระบบนี้ก็ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น

6. ระบบช่วยขับขี่ในความเร็วต่ำ

Semi-Auto Pilot ความจริงแล้วเกือบจะขับให้อัตโนมัติ ซึ่งในบางประเทศเริ่มมีระบบช่วยขับแบบ 100% แล้ว สำหรับในประเทศไทยยังมีแค่ช่วยประคองเท่านั้น โดยระบบนี้จะเป็นการช่วยควบคุมความเร็ว ทิศทาง ในขณะความต่ำๆ โดยอาศัยระบบเรด้าร์ตรวจจับรถคันหน้า พร้อมบังคับทิศทางเลี้ยวได้ตามคันหน้าอีกด้วย นับว่าสะดวกสบายมากขึ้น โดยในรถยนต์บางรุ่นมีระบบนี้ที่สามารถใช้งานในความสูง ๆ ได้ โดยควบคุมทั้ง ความเร็วตามคันหน้าหรือตั้งครุซคอนโทรลเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเบรกอีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่า “ห้ามปล่อยมือจากพวงมาลัย” เพราะเป็นเพียงระบบช่วยประคองทิศทางเท่านั้น ผู้ขับขี่ต้องมีสภาพสมบูรณ์พร้อมสำหรับการควบคุมรถด้วยนะครับ มิฉะนั้นระบบนี้จะส่งเสียงเตือนทันที

7. ประตูท้าย Hands Free

อันนี้ก็เป็นระบบที่เพิ่มความสะดวกสบายมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อกำลังถือสัมภาระเต็มมือ เพียงใช้เท้ากวาดใต้กันชนท้าย ฝากระโปรงท้ายก็เปิดขึ้นเอง ไม่ต้องวางของหยิบกุญแจรถหรือใช้ปุ่มที่รีโมทเปิดอีกต่อไป

8. ระบบจอดรถอัตโนมัติ

ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติถือเป็นเทคโนโลยีที่สะดวกและช่วยให้การจอดรถเป็นเรื่องง่าย ใช้งานได้ทั้งมือเกาและมือใหม่ เพียงทำตามขั้นตอนที่หน้าจอแสดงผลของรถยนต์ และยังปลอดภัยอีกด้วย จอดได้ทั้งแบบขนานและถอยหลังเข้าช่องจอด ระบบนี้ทำให้เซ็นเซอร์เตือนรอบคันหรือแม้แต่กล้องมองหลังกลายเป็นของโบราณไปเลย

9. ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

ผู้ขับรถหน้าฝนถูกใจสิ่งนี้ ระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องใช้นิ้วทั้งสองฝั่งเกี่ยวก้านปัดสวิตช์ระบบปัดน้ำฝนและไฟเลี้ยว ทำให้มือว่างและมีสมาธิในการควบคุมรถ นอกจากนี้ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติในบางรถยนต์รุ่นยังมีการแปรผัน ตามปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ความเร็วรถที่กำลังวิ่งอยู่ คำนวนให้เสร็จสรรพ คนขับเพียงแค่เปิดระบบ AUTO เอาไว้เท่านั้น

10. ระบบแจ้งเตือนการทำงานของรถยนต์

ระบบนี้นับว่าช่วยเจ้าของรถได้อย่างดี เพราะรถยนต์ใกล้ถึงเวลาเข้าเช็คระยะตามกำหนด โดยเตือนบนมาตรวัดให้เห็นชัดเจน เพื่อให้เจ้าของรถทราบว่าต้องนำรถเข้าศูนย์บริการแล้วโปรดเตรียมเงินให้พร้อม! นอกจากนี้ยังมีการเตือนแรงดันลบยางว่าอ่อนหรือไม่ เตือนระดับอุณหภูมิของยาง และเตือนให้ผู้ขับรถ “หยุดพัก” บางเมื่อขับต่อเนื่องเป็นเวลานานเกิน 2 ชม. ขึ้นไปเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยมากขึ้น
เทคโนโลยี10 สิ่งนี้นับเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอีกหลากหลายเทคโนโลยีในรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีมากมายและไปถึงขั้นสามารถขับขี่เองได้โดยอัตโนมัติ ผู้ขับไม่ต้องบังคับพวงมาลัยด้วยซ้ำไป! ทำให้การขับขี่รถยนต์ไม่ได้เป็นแค่เพียง ยานพาหนะที่พาวัตถุให้เคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งเท่านั้น เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายราวกับว่า คุณกำลังนั่งเล่นบนโซฟาที่บ้านพร้อมกับมีสิ่งต่าง ๆ ให้ใช้งานอย่างเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง  แต่ถึงอย่างไรการขับขี่รถยนต์ยังต้องคงความเป็นสัญชาตญาณของผู้ขับเอาไว้ ให้มีอรรถรสและประสบการณ์ในการควบคุมรถยนต์เป็นหนึ่งเดียว เพราะบางคนการขับรถคือ “ชีวิตและจิตวิญญาณ”

 

 

เครดิต www.checkraka.com