เกียร์ CVT ในรถยนต์ หรือ ระบบเกียร์แปรผัน เป็นเกียร์ที่จะเปลี่ยนแปลงการทำงานตามกำลังที่ส่งมาจากเครื่องยนต์ ซึ่งในชุดเกียร์จะประกอบด้วย พูลเลย์ 2 ตัว ตัวแรกต่อกับเครื่องยนต์เรียกว่า พูลเล่ย์ขับ (DRIVE PULLEY) ส่วนตัวที่ต่อกับเพลาจะเรียกว่า พูลเลย์ตามหรือพูลเล่ย์กำลัง (DRIVEN PULLEY) โดยทั้งสองตัวจะทำงานสอดคล้องกันตามอัตราเร่งและรอบเครื่องยนต์
เกียร์ CVT กับเกียร์ AUTO แบบ TORQUE CONVERTER มีวิธีการสั่งการให้ขับเคลื่อนเหมือนกัน แต่ใส้ในต่างกัน จะมีหลักการปรับเปลี่ยนอัตราทดเหมือนกันคือเปลี่ยนจากเฟืองมาเป็นพูลเล่ย์ ที่จะขยายใหญ่หรือลดขนาดไปตามอัตราทดที่ต้องการ โดยใช้สายพานโลหะเป็นตัวเชื่อมการทำงานของพูลเลย์ทั้ง 2 อันไว้ด้วยกัน ซึ่งระบบการปรับขนาดของพูลเล่ย์นี้มีทั้งแบบทำงานโดยไฟฟ้าและไฮดรอลิก ทำให้ไร้ความรู้สึกในการปรับเปลี่ยนอัตราทดในเกียร์ CVT
ข้อดีคือความนุ่มนวล เพราะเกียร์ CVT จะเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องไม่มีรอยต่อการเปลี่ยนเกียร์ จาก 1 ไป 2 ไป 3 เหมือนเกียร์ AUTO ปกติ ดังนั้นจึงทำให้รถยนต์นิ่งไม่มีความรู้สึกถึงการกระชาก หรือกระตุกในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ แต่จะค่อย ๆ ไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างนุ่มนวล ในขณะเดียวกันข้อดีของการที่เกียร์ไม่กระชาก จะทำให้รอบเครื่องไม่กระชากตามไปด้วย ส่งผลให้ทำให้อัตราการบริโภคน้ำมันลดลง และไม่มีการลากรอบทิ้งก่อนเปลี่ยนเกียร์เหมือนเกียร์ออโต้
ส่วนข้อเสียส่วนใหญ่เกิดกับคนเท้าหนักหรือคนที่คุ้นเคยกับเกียร์ในแบบที่มีรอยต่อเกียร์ให้รู้สึกลากรอบเพื่อเรียกแรงบิดในเกียร์ออโต้เป็นหลัก เพราะอย่างที่อธิบายไปแล้วว่าเกียร์แบบนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลไม่กระชาก ดังนั้นอาจไม่ทันใจขาซิ่งหรือผู้ที่คุ้นเคยกับเกียร์ออโต้แบบเก่า อย่างไรก็ตามในการขับขี่รถยนต์ที่ใช้งานเกียร์ CVT อย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุของเกียร์ให้มากขึ้นด้วย
เมื่อทราบถึงระบบเกียร์ CVT คืออะไร ทำงานอย่างไร การใช้งานก็เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เกิดสมรรถนะสูงสุด ไม่ว่าจะการสิ้นเปลืองหรือพละกำลัง รวมถึงอายุการใช้งานที่จะยืดยาวนานหรือสั้นก็อยู่ที่การขับขี่
ที่มา kmotors
เครดิต www.autospinn.com