Laserlight

ไฟหน้ารถยนต์ เป็นเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และรวดเร็ว จากหลอด Halogen ที่สว่างน้อย ลำแสงไปได้ไม่ไกล ความร้อนสูง ความทนทานต่ำ อายุการใช้งานสั้น เปลี่ยนมาเป็น Xenon ที่ให้ความสว่างและความเข้มของแสงสูง กินไฟน้อย แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องอุปกรณ์ในการสร้างไฟนั้นมีอุปกรณ์มากเกินไป

มาถึงยุคไฟ LED ที่มีข้อดีในทุกด้าน ทั้งความสว่างและความเข้มของแสงที่สูงกว่า กินไฟนิดเดียว แถมยังทนทาน จึงทำให้ค่ายรถส่วนใหญ่นำไปต่อยอดในการพัฒนาเป็นของตัวเอง แต่สำหรับค่าย BMW หันไปคบกับระบบไฟแบบ Laser ถือได้ว่าเป็นผู้นำในระบบไฟหน้า Leser

โดย BMW พัฒนาให้ระบบไฟหน้า Laserlight รุ่นใหม่ ใช้แสงเลเซอร์สีฟ้า ทำการหักเหในตัวโคม จนสามารถส่องสว่างออกมาเป็นแสงสีขาวนวลได้ไกลถึง 60 เมตร ทั้งนี้ BMW กล่าวว่า ระบบ Laserlight นั้น ประหยัดพลังงานกว่าระบบไฟหน้า LED ถึง 30% และมีความเข้มแสงมากกว่าหลอดไฟฮาโลเจน ซีนอน และ LED ถึง 10 เท่า

Laser Light ที่ไฟหน้า เพื่อช่วยยกระดับไฟสูงให้สามารถสร้างลำแสง และการส่องสว่างได้ดีกว่าแบบ LED เดิมถึง 660 หลา โดยรถยนต์ BMW i8 คือรถยนต์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิ้ลยูที่ใช้ไฟหน้าแบบ เลเซอร์ ตั้งแต่ปี 2014 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ได้ติดตั้งไปแล้วในหลายๆ รุ่น โดยมี BMW X7 เป็นรุ่นแรกๆ หลังจากนั้น นอกจากจะช่วยเรื่องการมองเห็นในเวลากลางคืนให้ดีขึ้นแล้ว นักออกแบบและช่างเทคนิคยังปลื้มมากกับเทคโนโลยีนี้ “โคม Laserlight มีขนาดเล็กกว่าโคม Halogen และ Xenon”

BMW Laserlight ทำงานอย่างไร

ภายในหลอดเลเซอร์จะมี ไดโอด เป็นแสงสีฟ้า เมื่อออกมากระทบกับ ฟอสฟอรัสสีเหลือง ซึ่งบรรจุอยู่ภายในหลอด จะทำปฏิกริยาออกมาเป็นแสงสีขาวที่สว่าง และมีความเข้มสูง

Dr.Abdelmalek Hanafi วิศวกร ไดนามิกเลเซอร์ไลท์โปรแกรม และ Mr.Helmut Erdi ซีเนียร์ ออปติคอล ซิสเต็ม เดเวลอปเปอร์ แห่ง BMW Group ได้ร่วมกันพัฒนาแสงสีขาวที่ให้ความสว่าง โดยมีพื้นฐานมาจาก เลเซอร์ ซึ่งมีเป้าหมายเองการมองเห็นที่ดีขึ้นไปอีกระดับ ที่จะช่วยให้นักขับขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในยามค่ำคืน

 

 

เครดิต www.autospinn.com