“ชาร์จ” เล็งเห็นเทรนด์การใช้รถอีวี ลงทุนเปิดสถานีชาร์จ-ขยายพันธมิตร-พัฒนาแอป พร้อมอำนวยความสะดวกผู้ใช้งาน จอง-จ่าย หัวชาร์จได้ครบจบในที่เดียว วางเป้า 3 ปี สร้างรายได้ 100 ล้านบาท
SHARGE ชูจุดขาย จอง-จ่าย หัวชาร์จครบจบที่เดียว
พีระภัทร ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นต์ กล่าวว่า ชาร์จเล็งเห็นโอกาสเดินหน้าธุรกิจเพื่อรองรับการใช้งานรถ EV ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย มีแผนทั้งการเพิ่มจำนวนสถานี ผ่านการขาย การลงทุนและสร้างพันธมิตร พร้อมพัฒนาแอป SHARGE เชื่อมต่อผู้ใช้รถอีวีกับสถานี อำนวยความสะดวกในการค้นหา และจอง-จ่ายหัวชาร์จไว้ในแอปเดียว วางเป้า 3 ปี สร้างรายได้ 100 ล้านบาท พร้อมก้าวเป็นผู้นำตลาด EV Charging Station ในไทยภายใน 5 ปี ด้วยจำนวนผู้ใช้แอป SHARGE ที่มากที่สุด กับการเข้าถึงสถานีชาร์จรถอีวีทุกแห่ง
“ความนิยมการใช้รถอีวีในไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมียอดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ที่จดทะเบียนสะสมในปี 2020 อยู่ที่ 2,079 คัน เติบโตสูงถึง 159% เมื่อเทียบกับยอดสะสมในปี 2019 ที่ 802 คัน ถึงแม้ตลาดรถยนต์จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ชาร์จมองว่าความต้องการของสถานีชาร์จจะสูงขึ้นสอดคล้องกัน โดยในปี 2020 บริษัทได้รุกตลาดยกระดับการเข้าถึง EV Charging Station ในแหล่งไลฟ์สไตล์ทั่วกรุงเทพฯ ร่วมมือพันธมิตรเพื่อลงทุนเปิดสถานีกับปตท. ตลอดจนอัปเกรดสถานีชาร์จที่ Central Embassy และ Central Chidlom เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า และจับมือกับแสนสิริและ Central T1 Loyalty Program เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย”
นอกจากนี้ ชาร์จได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถอีวี ในการค้นหาและจอง-จ่ายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าทั้งของบริษัทฯ และเครือข่ายพันธมิตรในแหล่งไลฟ์สไตล์ทั่วกรุงเทพฯ ผ่านแอป SHARGE และในปีนี้จะมุ่งเน้นการเข้าถึง EV Charging Station ในทุกจุดหมาย และเดินหน้าขยายครอบคลุมไปถึงหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่, เชียงราย, ชลบุรี, ระยอง, อยุธยาและภูเก็ต ภายใต้ความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตลอดจนวางเป้าเพิ่มจำนวนหัวชาร์จรวมเป็น 700 หัวชาร์จ ผ่านการขาย การลงทุน และการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการสถานีอื่น ๆ ในแอป SHARGE พร้อมรุกพัฒนา Fleet Solutions เพื่อวางรากฐานโครงสร้างสถานีชาร์จรถอีวี พร้อมกันนี้จะเปิดสถานีชาร์จบริเวณถนนสุขมวิท51 ประมาณเดือนเมษายนนี้ด้วย
เครดิต www.autospinn.com