รถบ้านนิยมใช้แก๊สกันมากขึ้นทั่วโลก เพราะราคาถูกกว่าน้ำมัน

          รถติดแก๊ส ได้รับความนิยมในบรถบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งแบบ CNG หรือ LPG เนื่องจากราคาแก๊สมีราคาถูกกว่าราคาน้ำมันเป็นอย่างมาก และเนื่องจากมีรถใช้แก๊สเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ หลายคนก็มักจะโทษว่าเป็นการการติดแก๊ส เลยพาลกลัวฝังใจไป ทั้งๆ ที่ความผิดที่แท้จริง ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ดูแลรถ ซึ่งต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เชื้อเพลิงน้ำมันเช่นกัน ซึ่งการดูแลรักษารถติดแก๊ส ที่ถูกต้องนั้นไม่ยากซับซ้อนอะไร คอลัมน์ความรู้เรื่องรถคราวนี้ เราจะมาบอกให้ทราบเป็นข้อๆกันครับ

เวลาเกิดอุบัติเหตุ คนมักจะกลัวแก๊สระเบิดจนฝังใจ ทั้งที่แก๊สไม่ใช่ตัวการ

 

รถที่ถูกติดแก๊สรถยนต์นั้น จะต้องมีการดูแลรักษาเครื่องยนต์ที่มากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป ซึ่งนอกจากการดูแลรักษาเครื่องยนต์ตามปกติ เช่น เช็คของเหลวหล่อลื่นและหล่อเย็น เช็คสายพาน เช็คสายไฟ เช็คหัวเทียน และระบบเชื้อเพลิงปกติแล้ว ขั้นตอนวิธีการตรวจเช็ครถติดแก๊ส ก็มีเพิ่มเข้ามาดังนี้

  • ถังแก๊ส สำรวจกลิ่นอย่างเป็นประจำ ซึ่งกลิ่นของแก๊ส CNG และ LPG จะต่างกัน เราต้องลองไปดมด้วยตัวเองเวลาเติมแก๊ส ส่วนการตรวจเช็คจุดรั่วนั้น สามารถทำได้โดยเอาน้ำสบู่ลูบในจุดต้องสงสัย ตามท่อต่างๆ ตรงที่ได้กลิ่นแรง แล้วมองหาฟองที่ผุดขึ้นมาต่อเนื่อง
  • สังเกตการรั่วซึมของระบบน้ำเข้าหม้อต้มแก๊ส หากมีรอยเปียกซึม หรือพบคราบตะกรัน ควรรีบเข้าอู่ทำการเปลี่ยนท่อหรือหม้อต้มใหม่ทันที และมีการล้างหม้อต้มที่ควรทำเมื่อใช้งานไปในระยะเวลา 12-18 เดือน
  • หม้อต้มแก๊ส ตรวจเช็คการติดตั้งแน่นหนา ตำแหน่งไม่อยู่ใกล้แบตเตอร์รี่หรือคอยล์จุดระเบิด ถ้าเป็นระบบดูดหรือมิกเซอร์ ต้องวางตำแหน่งด้านหน้าแปลนวงกลม หันไปตามแนวขวางของตัวรถ ห้ามวางนอนหรือตะแคง จะมีผลต่อการจ่ายแก๊สไม่สม่ำเสมอ
  • น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนตามกำหนดทุกครั้ง และใช้เกรดน้ำมันเครื่องที่ถูกผลิตมาครอบคลุมรถติดแก๊สด้วยจะดีที่สุด เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์


เปลี่ยนหัวเทียนบ่อยขึ้นเล็กน้อย หรือเลือกเกรดดีขึ้นกว่าเดิม

  • หัวเทียน เช็คสภาพบ่อยขึ้น การเปลี่ยนหัวเทียน ถ้าเป็นเกรดธรรมดาควรเปลี่ยน ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี ถ้าเกรดอิริเดียมหรือแพลทตินั่มก็ยืดอายุไปได้เกือบเท่าตัว
  • ตั้งวาล์วเมื่อมีการใช้งานครบระยะ 40,000-60,000 กม.
  • ไส้กรองแก๊ส ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ ทำไปพร้อมๆ กับตอนเข้าอู่ตรวจเช็คระบบไปด้วยเลย ราวๆ 12-18 เดือน
  • ปั๊มติ๊กแก๊ส และปั๊มติ๊กน้ำมัน ควรเปลี่ยนทุกๆ 3 ปี หรือเมื่อมีการใช้งานถึง 30,000-50,000 กม.


สลับใช้กับน้ำมัน ป้องกันบ่าวาล์วสึกหรอเร็ว

          นอกจากนี้ ยังขอแนะนำวิธีใช้รถแก๊สอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากกว่าเบนซินปกติมากเท่าไหร่ โดยหมั่นทำให้เป็นนิสัย จะช่วยยืดอายุรถยนต์ติดแก๊สไปได้มาก ทำได้ง่ายๆดังนี้

  • ควรเติมน้ำมันไว้เกิน 1/4 ของถังเพื่อไว้ใช้สำรองตอนแก๊สหมดและป้องกันการเกิดสนิมในถังน้ำมัน และยังสามารถป้องกันการพังของปั๊มติ๊กน้ำมันได้เช่นกัน
  • ใช้น้ำมันสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนทุกเครื่อง และก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ควรเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบน้ำมันก่อน เพื่อรักษาประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอของบ่าวาล์ว และป้องกันหัวฉีดอุดตัน กับกระบอกสูบแห้งเกินไป


หม้อต้มแก๊ส LPG ต้องดูการรั่วซึมทั้งน้ำและแก๊ส

  • เลือกศูนย์บริการติดแก็สหรืออู่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับการติดตั้งและตรวจเช็คที่ถูกวิธี
  • ห้ามต่อพ่วงกับถังแก๊สหุงต้มที่ใช้ในบ้าน เพราะการต่อใช้แบบนี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้มาก เพราะไม่สามารถควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์และวิธีการทำได้เลย
  • ไม่ควรขับรถแบบรุนแรงและกดคันเร่งเฉียบพลัน ระวังการเกิด BackFire ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับรถที่แก๊สระบบดูดหรือ Mixer
  • อย่าปรับจูนแก๊สจนบางเกินไป เพราะการปรับจูนแก๊สบางไปนั้น จะทำให้ความร้อนในห้องเครื่องสูงและอาจจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน

รถติดแก๊สมานานกว่า 10 ปี ควรเปลี่ยนถังใหม่ตามที่ขนส่งกำหนด

         ชิ้นส่วนแก๊สอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างโซลินอยหรือสวิตช์แก๊ส มีโอกาสเสียได้ยาก และไม่ต้องการดูแลพิเศษใดๆ ส่วนเมื่อใช้รถระยะเวลาเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็ควรทำการเปลี่ยนถังใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยกรมขนส่งทะยอยสั่งให้เลิกใช้ถังแบบวาล์วมือหมุนแล้ว เปลี่ยนเป็นแบบมัลติวาล์วซึ่งมีความปลอดภัยกว่า

 

เครดิต www.boxzaracing.com