เมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดเฟือง ลูกสูบ หรือชิ้นส่วนอื่น ๆ จะมีการขยับทันที ด้วยเหตุนี้ทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนและการสึกหรอ “น้ำมันเครื่อง” จึงมีบทบาทที่สำคัญอย่างมากกับระบบของเครื่องยนต์


“น้ำมันเครื่อง” นอกจากจะช่วยหล่อลื่นให้กับชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์แล้ว ยังช่วยลดความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ แต่ทั้งนี้เราก็ต้องเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ด้วย ไม่ใช่ว่าจะใช้น้ำมันเครื่องแบบไหนก็ได้

น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท ?

ปัจจุบัน น้ำมันเครื่องที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่

  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% (Fully Synthetic) มีคุณสมบัติช่วยเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ สามารถทนความร้อนได้ดี ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย อายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000 – 15,000 กิโลเมตร เหมาะกับรถที่ใช้รอบเครื่องยนต์สูงบ่อย ๆ ใช้ได้กับรถแข่ง และรถทั่ว ๆ ไป
  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) คุณสมบัติจะรองมาจากน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ อายุการใช้งานอยู่ที่ 7,000 – 10,000 กิโลเมตร ใช้ได้กับรถทั่ว ๆ ไป
  • น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา (Mineral) เป็นน้ำมันเครื่องที่มีราคาถูกที่สุด ผลิตจากน้ำมันดิบ อายุการใช้งานอยู่ที่ 3,000 – 5,000 กิโลเมตร ใช้ได้กับรถทั่ว ๆ ไป แต่ไม่เหมาะกับรถแข่งที่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง

การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง นอกเหนือจากประเภทของน้ำมันเครื่องแล้ว ค่าความหนืดก็สำคัญเช่นกัน สามารถดูได้จากหน้าแกลลอน ซึ่งจะระบุตัวเลขค่าความหนืดเอาไว้

ตัวเลขหน้าW จะแสดงค่าความหนืดเมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำ ตัวเลขยิ่งต่ำเท่าไร ยิ่งมีประสิทธิภาพทนต่อความหนาวเย็นได้เท่านั้น ไม่มีผลกระทบจากอุณหภูมิภายนอกเมื่ออุณหภูมิต่ำ (ประเทศไทยอากาศอุณหภูมิไม่ต่ำถึง 0 องศาเซลเซียส) ด้วยเหตุนี้ ตัวเลขค่าความหนืดในปัจจุบันตั้งแต่ 0W จนถึง 20W จึงสามารถใช้ได้เป็นปกติ

ตัวเลข 2 ตัวหลังที่อยู่หลังW คือค่าความหนืดเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ยิ่งตัวเลขมากเท่าไร ค่าความหนืดยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

(จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดที่เหมาะสม ตามที่สมุดคู่มือรถได้ระบุเอาไว้)

น้ำมันเครื่องที่ดี ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ?

  • คุณสมบัติในการหล่อลื่น เนื่องจากชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ทำมาจากโลหะและมีการสัมผัสเสียดสีกันจึงทำให้น้ำมันเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะคอยปกป้องความสึกหรอ ลดการเสียดสีของชิ้นส่วนโลหะ
  • คุณสมบัติในการปิดผนึก คอยปิดผนึกไม่ให้แรงการจุดระเบิดของเครื่องยนต์สามารถเล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างลูกสูบและแหวนลูกสูบออกมาได้ ป้องกันก๊าซจุดระเบิดไม่ให้รั่วไหลออกมาได้ และปิดผนึกระหว่างช่วงการขึ้น-ลงของลูกสูบในระหว่างบีบอัดอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้แรงดันในเครื่องยนต์รั่วไหลออกไป
  • คุณสมบัติในการกระจายแรงเค้น น้ำมันจะอยู่ในส่วนที่มีแรงเค้นกระทำอย่างรุนแรงโดยน้ำมันจะรับแรงช็อกเอาไว้ คอยดูดซับและกระจายแรงกระทำนั้นออกไป
  • คุณสมบัติในการหล่อเย็น ภายในเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูง น้ำมันเครื่องคือส่วนที่จะรับความร้อนจากภายในเครื่องยนต์เป็นส่วนแรก น้ำมันเครื่องจะเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างลูกสูบกับแหวนลูกสูบ และแหวนลูกสูบกับกระบอกสูบคอยรับและนำพาความร้อนออกมาในระหว่างที่ไหลเวียนไปกลับยังอ่างน้ำมันเครื่อง ก่อให้เกิดคุณสมบัติในการหล่อเย็น
  • คุณสมบัติกระจายความสะอาด น้ำมันเครื่องจะคอยรับความสกปรกที่เกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์เช่นก๊าซที่เผาไหม้หรือคราบคาร์บอน โดยจะปกป้องยึดเกาะอยู่ภายในเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องที่กลายเป็นสีดำ แสดงถึงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์
  • คุณสมบัติในการป้องกันสนิม น้ำมันเครื่องนั้นยึดเกาะอยู่ที่ผิวของโลหะทำให้เป็นการป้องกันการสัมผัสโดนกับ น้ำ อากาศ หรือก๊าซที่เป็นอันตราย เป็นการป้องกันการเกิดสนิมในโลหะ

นอกจากนี้ การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง เราต้องเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และต้องผ่านมาตรฐานที่กำหนด อย่างเช่นน้ำมันเครื่องแบรนด์ Sunoco (ซันโนโก้) ซึ่งแบรนด์นี้ มีมาอย่างยาวนาน ถึง 130 ปี จากประเทศอเมริกา มาจนถึง ญี่ปุ่น มีการพัฒนา และคิดค้นสูตรใหม่ ๆ อยู่เสมอ จึงมั่นใจได้ว่า คุณภาพสินค้าของ Sunoco ผ่านการคิดค้นมาเป็นอย่างดี และการปรับโฉมใหม่ของน้ำมันเครื่อง Sunoco ในครั้งนี้ ได้มีการจับกลุ่มประเภทน้ำมันเครื่องรถเบนซิน และ น้ำมันเครื่องรถดีเซล โดยมีการเพิ่มมาตรฐานใหม่ API SP ซึ่งเป็น มาตรฐานล่าสุด

น้ำมันเครื่อง Sunoco เหมาะกับรถประเภทไหน ?

Sunoco มีน้ำมันเครื่องมากมายหลากหลายเบอร์ความหนืด ตั้งแต่รถยนต์ ECO Car ไปจนถึงรถยนต์ Super Car และรถที่ใช้เครื่องยนต์ Generation ใหม่ ที่ต้องการการป้องกันการเกิด LSPI ในเครื่องยนต์ รวมถึงความหนืดสำหรับรถยนต์รุ่นเก่าที่ต้องการความหนืดสูง วิธีเลือกค่าความหนืด แนะนำให้ใช้เบอร์น้ำมันตามที่คู่มือกำหนด

ในส่วนของน้ำมันเครื่องยนต์ Diesel ทาง Sunoco ได้มีการพัฒนาสูตรเพื่อรองรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่เช่นกัน

คุณสมบัติของน้ำมันเครื่อง Sunoco

น้ำมันเครื่องทุกสูตรของ Sunoco ผลิตจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด แยกประเภทชัดเจน มีคุณสมบัติครบตามที่กล่าวมาทั้งหมดในตอนต้น คือ คุณสมบัติในการหล่อลื่น คุณสมบัติในการปิดผนึก คุณสมบัติในการกระจายแรงเค้น คุณสมบัติกระจายความสะอาด คุณสมบัติในการป้องกันสนิม และคุณสมบัติในการหล่อเย็น โดยน้ำมันเครื่องจะสร้างเป็นชั้นฟิล์ม เพื่อลดการเสียดสี อุณหภูมิสูงที่เกิดจากความร้อนเผาไหม้และความร้อนเสียดสี จะถูกดูดความร้อนและปล่อยออกภายนอกเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการชะล้างคราบเขม่า ตะกอน ที่เกิดจากการเผาไหม้ ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

น้ำมันเครื่อง Sunoco มีทั้งสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายน้ำมันเครื่องทั่วประเทศ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://sunoco.co.th/

 

 

เครดิต www.autospinn.com