สมัยฝึกขับรถใหม่ ๆ คุณเริ่มต้นด้วยรถเกียร์ธรรมดากันหรือเปล่า?
ถ้าใช่ รับรองได้เลยว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านมาสักกี่ปี จะต้องจำความรู้สึกนั้นได้แน่นอน ไม่มีวันลืมการใช้งานไปง่าย ๆ ที่สำคัญคุณจะอยากกลับไปขับมันอีกครั้ง จังหวะในการปล่อยคลัทช์แล้วรถกระตุก เครื่องดับตอนออกตัว คือสิ่งที่คนฝึกขับรถต้องเจอ รวมถึงยังมีประสบการณ์อีกมากมายเมื่อขับรถออกถนนใหญ่ใหม่ ๆ
ผมจำได้ว่ารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ขับไปเจอรถติดค้างอยู่บนสะพาน! ลุ้นตลอดว่าขออย่าติดอยู่บริเวณทางขึ้นเลย ยิ่งขับรถขึ้นที่จอดในห้างด้วยแล้ว ยิ่งต้องปาดเหงื่อหนัก รวมไปถึงจังหวะจะออกจากซอย ก็อย่าให้มีรถคันหลังมากดดันเลย ไม่งั้นจะลก ทำอะไรไม่ถูก ทั้งหมดคือสิ่งที่คนขับรถเกียร์ออโต้ไม่เจอ สมัยหัดขับรถใหม่ ๆ
มาถึงสมัยนี้ หากไม่นับรถที่ผลิตมาเพื่อการขนส่ง รวมถึงรถกระบะ คงไม่มีใครถอยรถป้ายแดงที่เป็นเกียร์ธรรมดากันแล้วนะครับ แต่หากมี ก็จะมีรถใหม่สักกี่รุ่นที่ยังผลิตเกียร์ธรรมดาออกมาขาย? หากไล่ดูรถเก๋งในตลาดตอนนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถอีโคคาร์ครับ ที่ยังผลิตรุ่นเกียร์ธรรมดาออกมาขาย อย่าง ซูซูกิ เซียส, มิตซูบิชิ มิราจ รวมถึง นิสสัน มาร์ช
นอกจากนั้นแล้วก็จะข้ามรุ่นไปที่รถในระดับสปอร์ตคาร์ หรือซูเปอร์คาร์กันโน่นเลย ที่ยังทำเกียร์ธรรมดาออกมาขาย อาทิ มาสด้า MX-5 รวมถึงรถในตระกูลปอร์เช่หลายรุ่น ที่ยังต้องการรีดสมรรถนะและความรู้สึกในการขับขี่ออกมาอย่างเต็มที่ เพราะรถระดับนี้ ความดิบของการเปลี่ยนเกียร์เองคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง
บางคนอาจจะแย้งว่าทุกวันนี้ ในรถทั่ว ๆ ไปเกือบทุกยี่ห้อ มีการใส่เทคโนโลยีที่เป็นโหมดของเกียร์ Manual เข้ามาในระบบของเกียร์ออโต้ มีคันโยกให้สับ + และ – ได้เหมือนกับเกียร์ธรรมดาเป๊ะ แต่บอกเลยครับว่า ความรู้สึกมันไม่ใช่! การเหยียบแป้นคลัทช์ การลากรอบเครื่องยนต์ การสับเกียร์ คือสัมผัสที่หาไม่ได้จากโหมดแบบนี้
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวว่า เมอร์เซเดส ค่ายรถชั้นนำของเยอรมนี กำลังเตรียมหยุดผลิตรถเกียร์ธรรมดาบนสายพานการผลิตของตัวเอง ส่วนในสหรัฐฯ รถใหม่ในตลาดก็มีรถเกียร์ธรรดาขายเพียงแค่ 12 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่ฮอนด้า ก็เตรียมเลิกผลิตรถเกียร์ธรรมดาบางรุ่นในปี 2021 เนื่องจากยอดขายตก
คงปฏิเสธไม่ได้ครับว่า หากเป็นการใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวัน ยิ่งการขับในเมืองที่แสนรถติดอย่างกรุงเทพฯ เกียร์ธรรมดา คือสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์อย่างสิ้นเชิง นั่นหมายความว่ารถยนต์เกียร์ธรรมดากำลังจะสูญพันธุ์ไปตามกาลเวลา และถูกแทนที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ก่อนจะเปลี่ยนผ่านไปสู่รถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ดี ด้วยเสน่ห์และฟิลลิ่งในการขับขี่ของรถเกียร์ธรรมดา วันหนึ่งเมื่อรถทุกยี่ห้อเลิกทำตลาดไปแล้ว ผมเชื่อว่ามันจะเป็น “แรร์ไอเทม” ที่ทำให้ทุกคนถวิลหา และบางทีค่ายรถอาจต้องตัดสินใจกลับมาผลิตรุ่นพิเศษออกมาอีกครั้งก็เป็นได้ครับ
เครดิต www.sanook.com