ไม่กี่วันก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ ผมเห็นข่าวอุบัติเหตุที่เกิดจาก “แบริเออร์” เกิดขึ้นอีกครั้ง จำได้ว่าช่วงขวบปีที่ผ่านมา แบริเออร์ (Barrier) กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วมันคืออุปกรณ์ที่่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยซ้ำไป
หากเป็นถนนที่สัญจรกันในชีวิตประจำวัน เรามักจะเห็นแบริเออร์สีส้มบริเวณที่เป็นจุดก่อสร้าง ที่เป็นตัวแบ่งพื้นผิวจราจร ซึ่งก็จะมีให้เห็นทั้งวัสดุที่เป็นแท่งคอนกรีต ไปจนถึงแบริเออร์สีส้มที่เป็นพลาสติกแล้วใช้วิธีใส่น้ำถ่วงน้ำหนักไว้ด้านใน หน้าที่หลักของมันคือเพื่อลดความแรงและซึมซับแรงกระแทกเวลารถหลุดออกนอกเส้นทาง
นอกจากนี้ในปัจจุบันที่เราเห็นกันบ่อยสุด คือแบริเออร์สีส้มที่ถูกนำมาตั้งไว้บริเวณจุดกลับรถ ซึ่งจะกินพื้นที่เลนจราจรออกมา 1 ช่องทางเป็นอย่างน้อย หรือบางแยกกินเลนออกมาถึง 2 ช่อง ข้อดีคือ สามารถทำให้รถที่ยูเทิร์นกลับรถได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลกับรถที่ขับมาทางตรง ที่สำคัญทุ่นแรงตำรวจไม่ต้องมายืนโบกกันทั้งวัน
อย่างไรก็มันก็มีข้อเสียครับ คือบนถนนเส้นที่รถเยอะ การกั้นแบริเออร์ออกมากินเลนจราจร จะ 1 เลน หรือ 2 เลน ทำให้รถติดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้หากเป็นช่วงเวลากลางคืน คนขับรถที่ไม่ชินทาง และขับด้วยความเร็วมาทางเลนขวา ก็มีโอกาสซัดเข้าไปเต็ม ๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
นี่ยังไม่รวมกรณีที่นอกเหนือความคาดหมายนะครับ ที่หากแบริเออร์อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ อาทิ น้ำหนักที่ถ่วงเอาไว้ไม่หนักพอ ก็มีโอกาสทำให้รถบรรทุกหรือรถใหญ่วิ่งผ่านไปเร็ว ๆ พัดหรือดูแท่งสีส้มออกมาจากจุดของมันได้ และรถที่ตามมาก็มีโอกาสที่จะขับชนชนิดไม่ทันตั้งตัวได้เช่นกัน อย่างรถจักรยานยนต์ที่เป็นข่าวไม่กี่วันมานี้
ปล.ไหน ๆ พูดถึงแบริเออร์บริเวณจุดกลับรถแล้ว ก็อยากจะฝากว่า เขาเผื่อช่องทางเพื่อให้รถที่มาทางตรงไม่ต้องหยุดรถเอาไว้แล้ว ฉะนั้น คันที่กลับรถขอความกรุณาอย่าตีวงจนเกินเลนที่เข้าเผื่อเอาไว้ให้ จากที่จะเร็วจะกลายเป็นช้า และนำมาซึ่งอุบัติเหตุได้ครับ
เครดิต www.sanook.com
ฝาสูบ 4D56 มีกี่แบบ?