อาการเกียร์หลุด ไม่ใช่แท่นเกียร์หลุดออกมาจากตัวรถ ไม่ใช่ว่ารถคุณจะเข้าเกียร์ไม่ได้ แต่เป็นอาการที่มันอันตรายกว่านั้นคือหลุดเข้าไปตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไร ก็ควบคุมรถไม่ได้ จะผลักเกียร์ไปอยู่ที่ P, D, หรือ L ก็ตามทุกเกียร์รถจะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด หากตั้งสติไม่ดีอาจถึงขั้นไปชน รถ กำแพง ประตูรั้ว หรือหากจอดรถอยู่ในห้างอาจตกลานจอดรถเลยก็เป็นได้ ฉะนั้นอย่ามองข้ามปัญหาเรื่องเกียร์รถเป็นเด็ดขาด ทางที่ดีควรเช็กสายโยงเกียร์และหมั่นถ่ายน้ำมันเกียร์ตามคู่มือกำหนด หรือไม่ต้องรอเช็กตามระยะที่คู่มือรถบอกก็ได้ครับสังเกตสีน้ำมันเกียร์เริ่มดำก็เปลี่ยนถ่ายได้แล้ว

ตั้งสติเมื่อรถเกียร์หลุดดังนี้

  1. ตั้งสติ และเหยียบเบรกทันที เพราะเหตุการณ์มันเกิดแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เหยียบเบรกประคองรถ
  2. หากควบคุมรถไม่อยู่ ให้บิดกุญแจดับเครื่องยนต์ทันที พร้อมเปิดสวิตช์ไฟฉุกเฉิน (รถบางรุ่นเมื่อดับเครื่องยนต์พวงมาลัยอาจจะล็อกทันที และบางรุ่นต้องถอดกุญแจออกถึงจะล็อก)
  3. เรียกรถยก เพื่อนำรถเข้าอู่ซ่อมเฉพาะทาง หรือนำรถเข้าศูนย์บริการมาตรฐาน

ตรวจสอบการใช้งานเกียร์ให้ถูกต้อง

  1. เช็กสายคันเกียร์ หรืออะไหล่ที่เกี่ยวข้อง ต้นตอสาเหตุที่ทำให้เกียร์หลุดเกียร์ค้าง
  2. ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุกๆ ระยะ 30,000 – 50,000 กิโลเมตร หรือเมื่อน้ำมันเกียร์เริ่มเปลี่ยนสี
  3. เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับ ไม่ขับกระชากเกียร์ ควรเหยียบคันเร่งเบาๆ เมื่อต้องการให้ล้อหมุน
  4. ไม่ควรจอดในทางลาดชันหากเข้าตำแหน่งเกียร์ P น้ำหนักรถและแรงโน้มถ่วง อาจทำให้เฟืองเกียร์พังได้
  5. ไม่ขับรถลากรอบเกียร์นานๆ หรือคิกดาวน์บ่อยๆ

     สำหรับคนมีรถแล้วจะขับอย่างเดียวไม่ดูแลรถเลย ความอันตรายอาจมาเยือนคุณก็เป็นได้ ควรนำรถเข้าเช็กระยะตามคู่มือรถหรือก่อนกำหนดได้ยิ่งดี และไม่เฉพาะเรื่องเกียร์เท่านั้น อุปกรณ์ส่วนอื่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กันต้องเช็กให้ละเอียด ส่วนคุณจะซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่นั้น หากไม่มีความชำนาญก็ปฏิบัติตามช่างผู้เชี่ยวชาญแนะนำดีกว่าครับ

 

 

เครดิต www.sanook.com

 

วิธีการติดตั้งเทอร์โบ 4JA1 D-MAX