Sport Quattro Coupe เอกลักษณ์อันทรงคุณค่าของ Audi ได้รับการแปลงโฉมใหม่ในยุค EV โดยใช้ชื่อ Audi EL1 ผลงานจาก Marcus Holzinger อดีตนักออกแบบของ Volkswagen และเป็นผู้ก่อตั้ง ELegend ในปี 2021
ปลุกชีพ Quattro ให้กลายเป็นรถ EV ยุคใหม่ ภายใต้ชื่อ “Audi EL1”
หากจำกันได้ Audi Quattro ที่เปิดตัวเมื่อปี 1980 เป็นรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงโลก มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งมีการยึดเกาะถนนได้ทุกสภาพอากาศ จึงทำให้สามารถครอบแชมป์ World Rally Championship ในยุคนั้นถือว่าโด่งดังมากทีเดียว แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการขับ 4 เพิ่มสมรรถนะของรถอย่างดีเยี่ยม พร้อมกับสามารถทำความเร็วได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ต่อมาในปี 1984 ได้มีการเปิดตัว Audi Sport Quattro Coupe รุ่นฐานล้อสั้น ที่ทั้งสวยและโด่งดังไม่แพ้กัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ ELegend EL1 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแห่งศตวรรษที่ 21 สร้างขึ้นเพื่อยกย่อง Audi Sport Quattro Coupe อย่างไรก็ตาม ระบบขับเคลื่อนของ ELegend EL1 นั้นต่างจากรุ่น Sport Quattro เพราะล้อหลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถส่งพลังแรงม้าได้ถึง 603 ตัว ขณะที่ล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลัง 201 แรงม้า ด้วยเหตุนี้ไม่จำเป็นต้องขับเหมือน Walter Rohrl ก็สามารถทำให้ ELegend EL1 ดริฟต์ได้
Audi EL1 หรือ ELegend EL1 เป็นผลงานอันน่าทึ่งของ Marcus Holzinger อดีตนักออกแบบของ Volkswagen และเป็นผู้ก่อตั้ง ELegend ในปี 2021 แต่สิ่งที่ทำให้ ELegend EL1 น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ Wolfgang พ่อของ Holzinger เคยเป็นผู้สร้างโมเดลที่ Audi ผู้ซึ่งเป็นคนพัฒนา Quattro และ Sport Quattro รุ่นดั้งเดิม ก่อนที่จะแยกย้ายออกมาก่อตั้งบริษัทของเขาเองในปี 1983 เป็นธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ HOTE
ผลงานระดับมาสเตอร์คลาส
ELegend EL1 คือศิลปะการออกแบบยานยานต์สมัยใหม่ระดับมาสเตอร์คลาส ทั้งรูปแบบและรายละเอียด พื้นผิว และการตกแต่งนั้นล้ำสมัยสมกับเป็นศตวรรษที่ 21 แต่ยังคงกลิ่นอายของ Sport Quattro Coupe ของในรุ่นก่อน โดยการผสมผสานกันอย่างสวยงาม สังเกตได้จากการออกแบบช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงหน้า แฟลร์บังโคลนโป่ง และเส้นสีดำใต้ตัว C ที่มีรูปทรงคล้ายกัน แต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกันมากปรับตามยุคสมัย มีระยะฐานล้อ 96.3 นิ้ว ซึ่งยาวกว่า Sport Quatro รุ่นดั้งเดิมถึง 8.7 นิ้ว แต่สำหรับตัวรถโดยรวมจะสั้นกว่าเกือบครึ่งนิ้ว
ด้วยโครงรถแบบ Monocoque ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาได้รับการพัฒนาโดย Roding Mobility ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมยานยนต์ในมิวนิก ตัวซับเฟรมอะลูมิเนียมด้านหน้าและด้านหลังมีจุดยึดสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและฮาร์ดแวร์ รวมถึงระบบส่งกำลังที่เกี่ยวข้อง มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงค์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เทคโนโลยีและการตกแต่งภายใน
ด้วยรูปทรงที่โดดเด่นจากเบาะนั่งสไตล์ Racing โอบรับสะโพก มีแผงหน้าปัดดิจิตอลในพ็อด มาพร้อมกับระบบควบคุมที่ปลายทั้งสองข้างห่างจากพวงมาลัยสามก้านเพียงนิ้วเดียว มีระบบอินโฟเทนเมนต์ต่างๆ ประกอบด้วยอินเทอร์เฟซ Bluetooth ระบบนำทาง และอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ กล้องมองหลัง เซ็นเซอร์จอดรถ และกระจกไฟฟ้า
อีกหนึ่งไฮไลท์คือบนหลังคาติดตั้งแผงกระจกรูปทรงท่อ NACA โดย Holzinger กล่าวว่า “ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคือการผสานรวมเทคโนโลยีการออกแบบ และการพัฒนาแชสซีแบบม้วนที่ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ความล้ำสมัยไม่ให้จืดจางลง แต่ยังคงสมรรถนะที่ไม่เป็นรองใคร ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ดังนั้นการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ต้องเป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงเป็นอันดับแรก”
ขุมพลังการขับเคลื่อน
จากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวของ ELegend EL1 ทำพละกำลังรวมได้ 804 แรงม้า โดยที่มอเตอร์ด้านหน้าสามารถสร้างแรงบิดสูงสุดได้ 369 ปอนด์-ฟุต ขณะที่ด้านหลังสร้างแรงบิดสูงสุดได้ 811 ปอนด์-ฟุต มีน้ำหนักที่ลดลง 3,946 ปอนด์ซึ่งถือว่าเบาสำหรับรถยนต์ EV นั่นหมายความว่า ELegend EL1 จะสามารถำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.6 วินาที โดยที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถปรับโหมดการขับขี่จากมาตรฐานเป็นโหมดสปอร์ตได้ในแง่ของระบบส่งกำลัง มาพร้อมกับล้อขนาด 19 นิ้วและยาง 285/30 ที่ด้านหน้า และล้อขนาด 20 นิ้วและยาง 305/30 ที่ด้านหลัง
จากการทดสอบระบบระบายความร้อนด้วยแบตเตอรี่ด้วยการวิ่งแบบเต็มกำลัง 2 รอบในสนาม Nürburgring Nordschleife ด้วยระยะทาง 20 กิโลเมตร ได้อย่างสบายๆ โดยที่ไม่สูญเสียสมรรถนะใดๆ สำหรับ ELegend EL1 จะถูกผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น จากการผลิตด้วยมือในปีหน้า 2024 และพร้อมสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยราคาเริ่มต้นที่ 950,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33,250,000 บาท (รวมค่าจัดส่งและภาษีแล้ว)
เครดิต www.autospinn.com
“ไช้กูอยู่หนาง” 4D56U ยกเครื่องไทรทันพลัส+ Ride in High Style