ส่องความหรู Mercedes-Maybach S 580 e มูลค่ากว่า 11,200,000 บาท จากกรณีที่มีรถกระบะพุ่งชนท้ายเสียหายยับเยิน กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล บทความนี้ เราจะพามาเปิดประตูส่องความหรูหราว่าจะสมกับค่าตัว 8 หลักขนาดไหนกันเชียว
Mercedes-Maybach S 580 e เป็นรถยนต์ระดับ High-end Luxury ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก S-Class รุ่นปัจจุบัน แม้ว่ารูปลักษณ์จะดูใกล้เคียงกัน แต่ก็ถูกตกแต่งเพิ่มความหรูหราด้วยกระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์ประดับด้วยสัญลักษณ์ MAYBACH และกันชนหน้าที่ถูกตกแต่งด้วยโครเมียมเพิ่มความเตะตายิ่งขึ้นไปอีก ขณะที่ล้อ MAYBACH แบบ Forge wheels ขนาด 20 นิ้ว ก็ช่วยเพิ่มความแตกต่างจากรุ่น S-Class ได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งโดยสารหุ้มวัสดุหนัง Exclusive Nappa ที่ตกแต่งแบบ Diamond design และเบาะนั่งด้านหลังแบบ First-Class พร้อมฟังก์ชันนวดเพื่อความผ่อนคลายขณะเดินทาง อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE พร้อมระบบปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบฟอกอากาศ HEPA Filter และระบบตรวจจับฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Mercedes-Maybach S 580 e ยังถูกติดตั้งระบบผู้ช่วยส่วนตัว MBUX Interior Assistant สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ MBUX ที่รองรับระบบ Music streaming service, ระบบแผนที่ทำงาน, ระบบตรวจสอบสภาพการจราจร Live Traffic Information และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system
นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังถูกติดตั้ง Ambient lighting ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 สี รวมถึง 2 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สี Twinkle-star และสี Rosé gold ที่มีเฉพาะ Mercedes-Maybach เท่านั้น
และเพื่อให้สมกับฐานะความเป็น Mercedes-Maybach จึงมีการติดตั้งโปรแกรมการขับขี่ “MAYBACH” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเน้นความผ่อนคลายสูงสุดให้แก่ผู้โดยสารตอนหลัง โดยควบคุมการทำงานของช่วงล่างเพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มสบายมากที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถปรับการทำงานของคันเร่งเพื่อให้ออกตัวได้อย่างนุ่มนวล ไม่ระคายอารมณ์ผู้โดยสารด้านหลังอย่างแน่นอน
Mercedes-Maybach S 580 e ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 สูบ Plug-in Hybrid พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะมีพละกำลังสูงสุดรวม 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.
ระบบปลั๊กอินไฮบริดของ Mercedes-Maybach S 580 e ทำงานคู่กับแบตเตอรี่แบบ Luthium-ion ความจุ 28.6 kWh สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรเมื่อชาร์จจนเต็ม (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จด่วน (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลา 30 นาที และการชาร์จแบบปกติ (AC Charge) สูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จ 2 ชั่วโมง 30 นาที
สำหรับราคาจำหน่ายของ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบในประเทศ (CKD) ตัวถังสีทูโทน Obsidian black / High-tech silver ปัจจุบันอยู่ที่ 11,200,000 บาทเท่านั้นเอง
เครดิต www.sanook.com
WL เครื่องยนต์ Y2K (20 ปีแล้ว) ร่วงหรือรอด? | แกะกล่องHowMuch? EP.3