8 สาเหตุหลักที่ทำให้รถยนต์ไฟไหม้ ทั้งในกรณีของรถเก่า รถใหม่ หรือรถยนต์ไฟฟ้าเองก็สามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุเหล่านี้ จะมีอะไรบ้างไปชมกันค่ะ 

รถยนต์ไฟไหม้เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?

เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ สำหรับกรณีรถยนต์เกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งมุมมองของสาเหตุโดยส่วนใหญ่อาจมองว่ารถยนต์เก่ารึเปล่า? ใช้งานหนักเกินไปมั้ย? หรือสภาพของรถไม่พร้อมใช้งานมั้งแหละ แต่ในความเป็นจริงแล้วปัจจัยที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากสภาพของรถยนต์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่างดังต่อไปนี้

สาเหตุของรถยนต์ไฟไหม้

1. ระบบไฟฟ้าลัดวงจร

รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันนี้มีการเดินระบบไฟฟ้าไว้ทั่วทั้งคัน เนื่องจากมีการใช้งานด้วยระบบไฟฟ้าในหลากหลายตำแหน่ง อาทิ หลอดไฟ หน้าจอทัชสกรีน หรือแม้กระทั่งลำโพง-วิทยุ ที่คนมักจะใช้งานอยู่เป็นประจำในทุกๆ วัน ซึ่งหากมีการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าไว้ไม่ถูกต้อง หรือติดตั้งไว้ไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้ เป็นสาเหตุของการเกิดประกายไฟ และการลุกไหม้ของไฟลามไปยังส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ง่ายต่อการติดไฟ

2. ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหล

หากพูดถึงรถยนต์สันดาป แน่นอนว่าของเหลวต่างๆ ภายในรถจะเยอะกว่าในรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีการรั่วไหลของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง อาจะก่อให้เกิดประกายไฟที่รุนแรง จนสามารถทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ทั้งคันในพริบตา ซึ่งจัดว่าเป็นสาเหตุสำคัญและมีโอกาสสูงในการเกิดการเผาไหม้ขึ้นได้ และการรั่วซึมของมันเชื้อเพลิงสามารถเกิดขึ้นได้หลายจุด อาทิ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเบรก

3. อุณหภูมิเครื่องยนต์สูง

หากจะกล่าวให้ถูกต้อง ต้องพูดว่าเครื่องยนต์ที่อุณหภูมิสูง จะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ของเหลวต่างๆ อาทิ น้ำมันต่างๆ หรือน้ำยาหล่อเย็น ดันอุณหภูมิให้สูงขึ้น และถ้าของเหลวเหล่านี้รั่วออกมาจะทำให้กระจายไปทั่วห้องเครื่อง และเป็นสาเหตุของไฟไหม้ได้ในที่สุด

4. อุณหภูมิที่เครื่องฟอกไอเสียสูงกว่าปกติ

เครื่องฟอกไอเสียหรือแคตสูงกว่าปกติ เป็นชิ้นส่วนที่มีอุณภูมิสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และหากมีการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดความร้อนสูงกว่าปกติ ทำให้ชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหายตามไปด้วย ซึ่งก่อให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ติดแก๊ส เนื่องจากความร้อนจากห้องเผาไหม้มีอุณหภูมิที่สูงเกินกว่าที่แคตจะรับได้ ซึ่งจะทำให้แคตละลายและแตกได้

5. แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริด

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าถึงแม้ว่าจะไม่มีเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดความร้อน แต่ก็มีกรณีไฟไหม้ให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งอาจเกิดจากน้ำยาหล่อเย็นที่รั่วมาจากหม้อน้ำทำปฏิกิริยากับแบตเตอรี่ที่ชำรุดเสียหาย และทำให้เกิดประกายไฟได้ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจะมีการใช้งานไฟฟ้าเป็นพลังงานหลักในการทำงานรวมถึงการขับเคลื่อน เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา และอยุ่ในสภาพไม่เหมาะสมกับการใช้งาน หรือการชาร์จไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าที่ไม่สม่ำเสมอ / มากเกินไป ก็อาจทำให้แบตเตอรี่มีการบวม แตก หรือระเบิดและเกิดเป็นไฟไหม้ลุกลามได้

6.  การปรับแต่งที่ไม่ได้มาตรฐาน

ใครๆ ก็อยากให้รถตัวเองสวย ดูดี น่าขับ ก็เลยเอาไปปรับแต่งตามความชอบของแต่ละคน แต่การดัดแปลง ปรับแต่ง ที่ไม่ได้มาตรฐานก็สามารถก่อให้เกิดความบกพล่องต่อการใช้งาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนอื่นๆ ได้ อาทิ การปรับแต่งเพิ่มท่อแก๊สที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการดัดแปลงรถยนต์ที่สูงมาก หากไปต่อกับร้านที่ไม่ได้มาตรฐานทางด้านความปลอดภัย ก็เสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด และก่อให้เกิดการเสียดสีและเป็นประกายไฟได้ในที่สุด

7. ขาดการซ่อมบำรุงรักษา

เมื่อมีการใช้รถยนต์เป็นระยะเวลายาวนาน การซ่อมบำรุง เช็กสภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่เป็นประจำ หากพบว่ามีอะไหล่บางส่วนมีการชำรุดเสียหาย ก็ควรเร่งประเมินความเสียหายและเข้ารับการแก้ไขให้เรียบร้อย เพราะหากปล่อยไว้นานๆ ก็จะทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่อื่นๆ เกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้ และทำให้การทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้จากการขูด เสียดสี ของชิ้นส่วนในรถยนต์

8. อุบัติเหตุ

ถึงแม้ว่ารถยนต์ของคุณจะมีความปลอดภัยมากเพียงใด แต่หากเกิดกรณีอุบัติเหตุร้ายแรง ก็อาจะทำให้ของเหลวไวไฟต่างๆ ในรถ รั่วไหลออกมา และเกิดเป็นประกายไฟลุกลามเป็นเพลิงไหม้ได้เช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้คุณไม่อาจทราบล่วงหน้าได้อยู่แล้วเพราะเป็นเหตุสุทธิวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

 

 

เครดิต www.autospinn.com

 

1990 ไมตี้X ที่สุดแห่งทศวรรษ | แกะกล่องHowMuch? EP.5