ย้อนอดีตกับ GR86 Hakone Edition รุ่นพิเศษที่เกิดมาเพื่อโลดแล่นบนท้องถนนอย่างมีสไตล์ ดึงดูดทุกสายตาด้วยสีเขียว Ridge Green

Toyota GR86 Hakone Edition มาพร้อมสีเขียวใหม่! เท่แบบตะโกน

ฮาโกเน่! รถยนต์รุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นจาก Platform ของ GR86 Premium สปอร์ตคาร์ราคาจับต้องได้ โดดเด่นกว่าในรุ่นอื่นด้วยสีเขียว Ridge Green ใหม่! ตัดกับสีบรอนซ์ทองบนล้อขนาด 18 นิ้ว ผสานขุมพลังเครื่องยนต์เข้ากับแชสซีส์อันยอดเยี่ยม เรียกว่ากลับมาทวงคืนสปอร์ตไลท์จากแฟนๆ อีกครั้ง

Toyota GR86 Hakone Edition

ฮาโกเน่ รุ่นพิเศษนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบ 2.4 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 228 แรงม้า แรงบิด 184 ปอนด์-ฟุต มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดดเด่นด้วยล้อสีบรอนซ์ด้านขนาด 18 นิ้ว และสปอยเลอร์ทรงหางเป็ดตกแต่งด้วยสีดำ ที่ดูเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับสีของตัวถังพร้อมประดับด้วยตราสัญลักษณ์ Hakone

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งทรงสปอร์ตของ Ultrasuede® สามารถปรับได้ 6 ทิศทางเฉพาะที่นั่งด้านหน้า มีระบบปรับอุณหภูมิ 2 ระดับ ตกแต่งด้วยการเย็บตะเข็บสีแทน มาพร้อมหัวเกียร์ฮาโกเน่รุ่นพิเศษแปะป้าย GR เอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น พวงมาลัยหุ้มหนังมาพร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงในตัว ดีไซน์เข้ากันดีกับแผงหน้าปัดแบบดิจิทัล สำหรับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แป้นเปลี่ยนเกียร์จะติดตั้งไว้บนพวงมาลัยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก ในโหมดเกียร์ธรรมดาเพิ่มรอบให้สูงสุด 1,600 รอบต่อนาที ซึ่งสามารถเลือกโหมดปกติ สปอร์ต หรือสโนว์โมบิลได้ โดยที่รถจะทำการตรวจจับการทำงานของเบรก คันเร่ง รวมถึงพฤติกรรมผู้ขับขี่ เพื่อเลือกเกียร์ที่เหมาะสมที่สุดแบบอัตโนมัติ ในส่วนของระบบมัลติมีเดีย มีการติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบ Touch Screen ขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมลำโพง 8 ตัว ที่เป็นอุปกณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นพิเศษฮาโกเน่

เทคโนโลยีโครงสร้างตัวถัง GR86

ทีมวิศวกรของทาง Toyota ไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ ยังคงเรียนรู้จากประสบการณ์ในสนามแข่ง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Toyota GAZOO Racing นำมาปรับให้เข้ากับ GR86 Hakone รุ่นพิเศษ ปี 2025 เพื่อช่วยตอบสนองการควบคุมรถขณะเปลี่ยนเกียร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังนำเอาระบบควบคุมแรงบิดมาช่วยตอบสนองคันเร่ง และเพิ่มความเที่ยงตรงยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายแม้อยู่ในสภาวะความเร็วสูง

GR86 Hakone รุ่นพิเศษ ปี 2025 มาพร้อมกับโช้คอัพ SACHS และเบรก Brembo® เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เสริมความแข็งแกร่งให้กับแชสซีของ GR86 Hakone โครงสร้างผลิตจากเหล็กกล้าแรงดึงสูง เหล็กปั๊มร้อน และอลูมิเนียม โดยวัสดุแต่ละชนิดถูกจัดวางอย่างมีกลยุทธ์เพื่อความสมดุลระหว่างการทรงตัวและการหมุนตัว นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกแพ็คเกจ Performance ที่จะทำการเพิ่มไนโตรเจนและน้ำมันแรงดันสูงในโช้คอัพ SACHS เพื่อช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน ช่วยบังคับให้เลี้ยวได้อย่างมั่นคง สมดุล ตอบสนองการขับขี่บนถนนได้ทุกรูปแบบ ระบบเบรก Brembo® 4 ลูกสูบ พร้อมคาลิเปอร์สีแดงสด

อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบายอันทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตคาร์ที่มีน้ำหนักเบาและขับสนุก ด้วยน้ำหนักเพียง 2,811 ปอนด์ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 2,851 ปอนด์ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ทำให้ GR86 เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่เบาที่สุดในตลาด

ขุมพลังขับเคลื่อน GR86 Hakone

GR86 Hakone รุ่นพิเศษ ปี 2025 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รหัส FA-24 ขนาด 2.4 ลิตร แบบดูดอากาศตามธรรมชาติ ให้พละกำลังสูงสุด 228 แรงม้า แรงบิด 184 ปอนด์-ฟุต มีการปรับแต่งให้แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 3,700 รอบต่อนาที เพื่อตอบสนองอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.1 วินาที สำหรับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ 6.6 วินาที สำหรับเกียร์อัตโนมัติควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 6 สปีด (ECT-i) มาพร้อมกับ เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป Torsen® ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะขณะเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม และถ้าใครที่ชื่นชอบขับขี่ในโหมด Track สามารถกดปุ่มเพื่อปิดระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ (VSC) ได้ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และสำหรับในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ยังมีดิสก์คลัตช์และตัวแปลงแรงบิดความจุสูง ที่ช่วยให้คุณส่งกำลังได้อย่างนุ่มนวลและไหลรื่น

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ 

รถยนต์ทุกคันมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety Suite เป็นมาตรฐาน ประกอบด้วย ระบบเบรกก่อนการชน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบเตือนการส่าย รวมถึงระบบไฟปรับอัตโนมัติ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และในรุ่นเกียร์ธรรมดาประกอบด้วย ระบบเบรกก่อนการชน,  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบเตือนการส่าย และระบบเตือนด้านหลัง นอกจากนี้ยังมี ระบบป้องกันการโจรกรรม พร้อมระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์และสัญญาณเตือนเป็นมาตรฐาน

ติดตั้งระบบ Star Safety System™ ของ Toyota ซึ่งรวมถึง ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ (VSC) ระบบควบคุมการลื่นไถล (TRAC) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบช่วยเบรก (BA) นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Smart Stop Technology® (SST) ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ (VSC) โหมดการขับขี่บนทางลาดชัน และระบบควบคุมการช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม อาทิ LATCH (Lower Anchors and Tethers for Children) พร้อมจุดยึดด้านล่างและจุดยึดสายรัดที่เบาะหลังทุกจุด ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง รวมถึงบริเวณหัวเข่าคนขับอีกด้วย

 

 

เครดิต www.gaeglong.com

 

วิธีติดตั้งฝาสูบ Isuzu 4JA1 ตอน 1 | แกะกล่อง DIY