ปัจจุบันรถกระบะเริ่มมีเกียร์อัตโนมัติเป็นทางเลือกเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่เว้นแม้แต่กระบะซิงเกิลแค็บ (Single Cab) ที่เน้นใช้งานเชิงพาณิชย์ก็ตาม แล้วแบบนี้ควรเลือกอะไรดีระหว่างเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ? บทความนี้เราจะเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของเกียร์แต่ละแบบให้ทราบกันครับ
รถกระบะเกียร์ธรรมดา
ข้อดี
ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น – สามารถควบคุมความเร็วและแรงบิดได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการควบคุมด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอรอบเหมือนกับเกียร์ออโต้
ประหยัดน้ำมัน – โดยทั่วไปรถเกียร์ธรรมดามักจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต่ำกว่าเกียร์ออโต้ จึงประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้ดีกว่า
ราคาซื้อถูกกว่า – โดยปกติแล้วรถกระบะเกียร์ธรรมดาจะมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติในสเปกที่เท่ากัน
ข้อเสีย
ต้องใช้ความพยายามในการขับขี่มากกว่า – ต้องควบคุมคลัตช์และเปลี่ยนเกียร์เอง ทำให้เหนื่อยล้าได้ง่าย โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรติดขัด
ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น – การขับรถเกียร์ธรรมดาต้องใช้ทักษะการขับขี่
รถกระบะเกียร์ออโต้
ข้อดี
ขับขี่ง่ายและสะดวกสบาย – ไม่ต้องควบคุมคลัตช์และเปลี่ยนเกียร์เอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการขับขี่
เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง – การขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัดจะสะดวกสบายกว่าเกียร์ธรรมดา
เทคโนโลยีทันสมัย – รถเกียร์ออโต้รุ่นใหม่ๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ระบบควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชัน ซีงอาจไม่มีในรุ่นเกียร์ธรรมดา
ข้อเสีย
ราคาสูงกว่า – รถกระบะเกียร์ออโต้มักจะมีราคาขายที่สูงกว่าเกียร์ธรรมดาเป็นปกติ ทำให้ต้นทุนในการบริหารงานสูงกว่า
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงกว่า – เกียร์อัตโนมัติจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาที่ละเอียดอ่อนมากกว่า อีกทั้งเกียร์อัตโนมัติยังมีโอกาสพังได้ง่ายกว่าเกียร์ธรรมดาอีกด้วย
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสูงกว่า – รถเกียร์ออโต้มักจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่สูงกว่าเกียร์ธรรมดา
กล่าวโดยสรุปแล้วรถกระบะเกียร์ธรรมดาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดเป็นหลัก ทั้งต้นทุนในการซื้อ และค่าบำรุงรักษาระยะยาว ขณะที่เกียร์ออโต้เหมาะสำหรับกรณีจำเป็นต้องใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรือผู้ที่เริ่มต้นขับรถ ก็สามารถขับรถกระบะได้
เครดิต www.sanook.com
1990 ไมตี้X ที่สุดแห่งทศวรรษ | แกะกล่องHowMuch? EP.5