7 เช็คลิสต์ พร้อมลุยโรดทริปข้ามประเทศ
ลองหลับตาจินตนาการถึงการขับรถข้ามสองประเทศกับเพื่อนและครอบครัว ด้วยระยะทาง 12,000 กิโลเมตร บนถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา จากอากาศร้อนระอุไปสู่ความเย็นยะเยือก น่าจะเป็นการเดินทางสำรวจโลกที่สร้างความทรงจำอันน่าประทับใจและตื่นเต้น ฟังดูเป็นไปได้ยาก แต่ไม่จริง…หากคุณมีใจรักการผจญภัยและเลือกพาหนะคู่ใจได้ถูกคัน
เช่นเดียวกับผู้ใช้ ฟอร์ด ที่หลงใหลในการท่องเที่ยว รวมกลุ่มร่วมคาราวานโรดทริปสุดประทับใจ ด้วย ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ 7 คัน และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2 คัน ออกเดินทางจากป่าร้อนชื้นทางภาคเหนือของประเทศไทย มุ่งสู่ความหนาวเย็นสุดขั้ว ณ ฮาร์บิน หนึ่งในเมืองเหนือสุดของประเทศจีนที่มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย
การเดินทางแบบโรดทริปข้ามประเทศเป็นโอกาสที่จะทำให้คุณได้ออกจากคอมฟอร์ทโซน และได้ท่องเที่ยวตลอดเส้นทางด้วยการขับรถ แม้จะฟังดูท้าทาย แต่หากได้ใช้เวลาวางแผน และเลือกใช้รถที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าจดจำไปนานแสนนาน
การออกเดินทางแบบโรดทริปเป็นสิ่งที่นักผจญภัยต่างใฝ่ฝัน เพื่อจะได้มีโอกาสสำรวจโลกและค้นพบสิ่งใหม่ๆ ระหว่างการขับรถ ด้วยความปลอดภัยที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีภายในรถที่สามารถเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายในปัจจุบัน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละประเทศที่พัฒนาขึ้น ทำให้การโรดทริปข้ามประเทศเป็นไปอย่างง่ายดายกว่าที่เคยเป็นมา
ฟอร์ด มีเช็คลิสต์ 7 ข้อ สำหรับวางแผนโรดทริปข้ามประเทศ ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย รวมถึงป้องกันเรื่องไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง
1.วางแผนแล้ว วางแผนอีก
โรดทริปในประเทศอาจจะเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อเป็นการขับรถเที่ยวข้ามประเทศแล้ว อะไรๆ ก็อาจซับซ้อนยิ่งขึ้น ดังนั้น การวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องจำเป็น หลังเลือกจุดหมายปลายทางแล้ว ควรจะศึกษาและวางแผนเส้นทาง รวมถึงจุดพักต่างๆ ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เสียเวลา หรือเกิดความตึงเครียดระหว่างการเดินทาง อย่าลืมตั้งงบประมาณสำหรับทริปและจองโรงแรมไว้ล่วงหน้า แน่นอนว่าไม่มีใครอยากหลงทางอยู่ในประเทศที่ไม่รู้จักภาษาและไม่มีที่พัก
ส่วนที่ยากที่สุดของการวางแผนโรดทริปข้ามประเทศ คือขั้นตอนมากมายที่ต้องทำก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการขอวีซ่า ฉีดวัคซีน (หากจำเป็น) แลกเงิน และโทรหาบริษัทบัตรเครดิตเพื่อแจ้งว่าคุณกำลังจะเดินทาง ทุกอย่างเป็นขั้นตอนยิบย่อย แต่จำเป็นต้องตระเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ทริปของคุณราบรื่น
2.เตรียมรถให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันยาวนาน
ก่อนที่จะออกเดินทางไกล นำรถของคุณไปตรวจเช็คสภาพ และรับบริการต่างๆ ที่ตัวแทนจำหน่าย ตรวจเช็คลมยาง (รวมถึงเตรียมยางสำรอง) แบตเตอรี่ เบรก ระบบของเหลวต่างๆ ท่อยาง และเข็มขัดนิรภัย นอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ให้รถเสียระหว่างการเดินทาง ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเผยว่าการตรวจเช็คสภาพรถ ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง และทำให้รถวิ่งได้ไกลมากขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์
3.ทำความรู้จักรถ
จริงอยู่ว่าคุณขับรถอยู่ทุกวัน แต่คุณอาจจะไม่ได้รู้จักตัวรถทุกซอกทุกมุมก็ได้ ควรจะศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ ในรถ โดยเฉพาะฟังก์ชั่นที่คุณจะใช้ตลอดการเดินทางไกล หากคุณจะไปในที่ที่มีสภาพอากาศแปรปรวน หรือมีพื้นผิวถนนที่ท้าทาย ควรอ่านคู่มือของรถและทำความเข้าใจสมรรถนะ ฟีเจอร์ต่างๆ ของรถ อย่างระบบ Terrain Management System (TMS) ที่ช่วยควบคุมเครื่องยนต์ เกียร์ และเบรก ให้เข้ากับพื้นผิวของถนน จะทำให้คุณสามารถท่องเที่ยวบนพื้นที่ที่สมบุกสมบันได้อย่างสบายใจ หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายที่สุด คือการขับรถบนถนนที่สภาพต่างไป และไม่เคยขับมาก่อน เช่น การขับบนหิมะอันแสนท้าทาย เพราะพื้นผิวลื่นมาก แต่หากใช้โหมดการขับเคลื่อนบนหิมะ (Snow Mode) คุณจะสามารถขับฝ่าหิมะไปได้อย่างมั่นใจ
4.จัดกระเป๋าอย่างชาญฉลาด
ความสบายอย่างหนึ่งของการเดินทางด้วยรถยนต์ คือสามารถนำสัมภาระไปด้วยได้แบบตามใจชอบ แต่ควรจัดสัมภาระไปให้เบาจะดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะทุก 40 กิโลกรัมของน้ำหนักที่บรรทุกบนรถ จะทำให้ประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงลด 1-2 เปอร์เซ็นต์[2] ดังนั้นการจัดกระเป๋าอย่างชาญฉลาดจะทำให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ถ้าทริปของคุณต้องเผชิญกับอากาศแปรปรวน ควรเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศไปด้วย หากไปกับเด็ก อย่าลืมขนมหรือตัวช่วยเพื่อความบันเทิงต่างๆ เผื่อลดบรรยากาศตึงเครียด ความหิว และความเบื่อหน่ายระหว่างการเดินทางระยะไกล ถ้าคุณมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ อย่าลืมนำไปให้พอสำหรับตลอดทริป และนำใบสั่งยาจากแพทย์ติดตัวไปเผื่อกรณีฉุกเฉิน
5.เรียนรู้กฎบนถนน
ศึกษากฎหมายและกฎจราจรของแต่ละประเทศที่เดินทางไป เพราะอาจมีข้อบังคับต่างๆ ที่แตกต่างไปจากบ้านเรา หากต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่สากล เตรียมตัวเผื่อเวลาสำหรับการยื่นขอก่อนเดินทาง เช็คให้แน่ใจว่ารถมีประกันที่ถูกต้องและนำสำเนาใบประกัน พร้อมใบเสร็จ และเอกสารประกอบทะเบียนรถไปด้วย
อีกหนึ่งเรื่องที่ท้าทายที่สุดในการขับรถเที่ยวในต่างประเทศ คือการขับรถคนละฝั่งถนน ในการจราจรที่แตกต่างไปจากพื้นที่ที่คุ้นชิน ถ้าไม่เคยขับเลยอาจทำให้รู้สึกแปลก และดูเหมือนกับว่าคุณเพิ่งขับรถเป็นครั้งแรก ดังนั้นจึงควรขับอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ
6.เตรียมตัวรับมือ เผื่อผิดแผน
คุณต้องเข้าใจและยอมรับว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าคุณจะวางแผนหรือเตรียมตัวไว้พร้อมแค่ไหน ก็อาจจะมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะยางแบน ถนนปิด หรือมีอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจจะทำให้คุณหัวเสียไปวันสองวัน พึงคิดไว้เสมอว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้
เพราะฉะนั้น นำอุปกรณ์ที่จำเป็นเผื่อกรณีฉุกเฉินไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น สายพ่วงแบตเตอรี่ ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ไฟ LED ผ้าห่ม น้ำดื่ม และเสบียงอาหาร นอกจากนั้นเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น ควรหาเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินในท้องถิ่นและจดเก็บไว้ในกรณีที่คุณอาจต้องการความช่วยเหลือ
7.เที่ยวให้สนุก
คุณอาจจะตั้งเป้าว่าจะไปหลายๆ ที่ แต่ต้องให้เวลาในการเที่ยวสำรวจด้วย หากคุณมัวแต่ใช้เวลา 10 ชั่วโมงไปกับการขับรถ คุณจะมีเวลาสนุกได้เมื่อใด ความมหัศจรรย์ของโรดทริป คือการสำรวจเมืองเล็กๆ หรือจุดท่องเที่ยวน่าสนใจระหว่างทางที่กลายเป็นไฮไลท์ที่น่าจดจำ เพราะฉะนั้นคุณควรใช้สัญชาตญาณ ด้วยหัวใจของยอดนักสำรวจ เพื่อทริปสุดผจญภัยที่จะสร้างความทรงจำไปตลอดชีวิต
เครดิต www.mthai.com