ฟิล์มดำ-ฟิล์มปรอท-ฟิล์มใส ติดแบบไหนกันร้อนได้ดีที่สุด?
ฟิล์มกรองแสงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในรถยนต์บ้านเรา ซึ่งฟิล์มแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพการกันความร้อนแตกต่างกันไป แล้วเราควรติดฟิล์มแบบไหนถึงจะดีที่สุด? เรามีคำตอบให้ครับ
ปัจจุบันฟิล์มกรองแสงรถยนต์มีการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เข้ามาใช้อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความแตกต่างในด้านการตลาด และสามารถวางจำหน่ายได้ในราคาสูงกว่าปกติ แต่ถึงกระนั้น ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยังคงแบ่งได้เป็น 3 แบบหลักๆ ประกอบด้วย ฟิล์มดำ, ฟิล์มปรอท และฟิล์มใส นั่นเอง
ฟิล์มดำ
ฟิล์มดำเป็นฟิล์มที่มีส่วนผสมของปรอทค่อนข้างน้อย บางรุ่นอาจไม่มีส่วนผสมของปรอทเลย และบางรุ่นอาจใช้ส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปแทนเพื่อกันความร้อน เช่น เซรามิค ซึ่งอย่างหลังนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงอยู่ในระดับหลายหมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งฟิล์มดำมีจุดเด่นอยู่ที่ความมืดเมื่อมองจากภายนอกรถ สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสารภายใน และยังช่วยให้รถดูสวยงามขึ้นด้วย เนื่องจากสีดำจะตัดกับสีตัวถังภายนอกโดยเฉพาะรถสีขาว หรือสีสว่างอื่นๆ อีกทั้งดูดีแม้กระทั่งรถสีเข้ม เช่น สีดำ, สีเทา อีกด้วย
จุดที่น่าสังเกตของฟิล์มดำอยู่ที่ประสิทธิภาพการกันความร้อนที่ด้อยกว่าฟิล์มปรอท เมื่อเทียบกับระดับความเข้มเท่ากัน หากเจ้าของรถต้องการประสิทธิภาพการกันความร้อนที่มากขึ้น ก็ต้องแลกกับความเข้มของฟิล์มที่เพิ่มขึ้นด้วย แม้ว่าฟิล์มที่มีปริมาณความเข้มสูงมากๆ จะช่วยให้ขับขี่ท่ามกลางแดดจัดได้อย่างสบายตา แต่ก็จะลดทัศนวิสัยยามค่ำคืน ทำให้มองเห็นทางได้ลำบากเช่นกัน ดังนั้น หากจำเป็นต้องขับรถในเวลากลางคืนเป็นประจำ ก็ไม่ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มมากจนเกินไป
ฟิล์มปรอท
ฟิล์มปรอทจะถูกเคลือบผิวด้านหนึ่งด้วยโลหะ และอาจมีการใส่สีต่างๆ เพื่อให้ตรงกับรสนิยมของเจ้าของรถแต่ละคน ซึ่งฟิล์มปรอทจะมีความแวววาวมากกว่าฟิล์มดำ ทำให้สะท้อนความร้อนได้ดีกว่า หากเลือกฟิล์มปรอทที่มีค่าความเข้มเท่ากับฟิล์มดำ ฟิล์มปรอทมักให้ประสิทธิภาพการกันความร้อนได้ดีกว่า เจ้าของรถจึงไม่จำเป็นต้องเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูงมาก ช่วยให้สบายตามากกว่าเมื่อขับขี่ในเวลากลางคืน
แม้ว่าฟิล์มปรอทจะมีประสิทธิภาพการกันความร้อนดีกว่าฟิล์มดำ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือแสงสะท้อนภายในห้องโดยสารที่มากกว่าเช่นกัน ในเวลากลางวันอาจมองเห็นแสงสะท้อนของแผงคอนโซลบนกระจกได้ ทำให้มองเห็นภายนอกได้ไม่ชัดเจน จึงไม่ควรเลือกฟิล์มปรอทที่มีความแวววาวสูง เพื่อป้องกันไม่ให้แสงสะท้อนภายในห้องโดยสารมากจนเกินไป และยังอาจสะท้อนแสงแดดเข้าตาผู้ร่วมทางได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ฟิล์มปรอทบางรุ่นยังอาจปิดกั้นสัญญาณจีพีเอส หรือบัตรอีซี่พาสได้ ก่อนติดควรถามช่างให้แน่ใจว่าฟิล์มรุ่นที่ต้องการนั้น สามารถใช้งานกับจีพีเอสและอีซี่พาสได้โดยไม่มีปัญหา
ฟิล์มใส
สำหรับบางคนที่ต้องการให้คนภายนอกสามารถมองเข้ามาในรถได้ ฟิล์มใสก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วฟิล์มใสก็คือฟิล์มที่ผ่านกระบวนการเคลือบโลหะแบบพิเศษ ทำให้มีประสิทธิภาพการกันความร้อนได้เทียบเท่ากับฟิล์มชนิดอื่นๆ แต่ยังคงความใสไว้
ปัจจุบันฟิล์มใสมีตัวเลือกเพียงบางยี่ห้อเท่านั้นและมีราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง อีกทั้งยังต้องระวังเรื่องการปิดกั้นสัญญาณจีพีเอสและอีซี่พาสด้วย เนื่องจากใช้กระบวนการเคลือบสารโลหะเหมือนกับฟิล์มปรอท
ฟิล์มกรองแสงส่วนมากมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับการจอดรถกลางแดดมากน้อยเพียงใด ดังนั้น หากถึงเวลาเปลี่ยนฟิล์มใหม่ ก็ควรเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุดนะครับ
เครดิต www.sanook.com