มาทำความเข้าใจให้ถูกต้อง กับนิยามคำว่า Eco Car กันอีกครั้ง
ช่วงนี้รถยนต์ประเภท Eco Car กลับเข้ามาอยุ่ในกระแสคนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์กันอีกครั้ง เพราะมีการเปิดตัวโฉมใหม่มาถึง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Nissan Almera และ Honda City รวมถึงการปรับหน้าตาใหม่ของ Mitsubishi Mirage, Attrage, Mazda 2 ส่วน Toyota Yaris และ Yaris Ativ ก็มีการปรับออพชั่นใหม่ ทำให้ตลาดนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ดูแปลกตาไปในเรื่องของ Eco Car ยุคนี้ คือการที่ค่ายฮอนด้าขยับตัวรถขนาด B Car อย่าง Honda City ลงมาอยู่ในตลาด Eco Car ด้วย หลายคนเลยมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “รถไซส์นี้ จะเป็น Eco Car ได้ยังไง”, “ราคานี้ เกิน Eco Car ไปแล้ว” เป็นต้น ทำให้รู้ได้เลยว่า หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ ว่ารถยนต์ Eco Car นั้นคือรถขนาดเล็ก ที่มีราคาจำหน่ายถูกกว่ารถทั่วไปนั่นเอง
ในความเป็นจริงแล้ว คำนิยามของรถ Eco Car ไม่ได้หมายถึง Economy ที่แปลว่า รถราคาย่อมเยา แต่จริง ๆ แล้วมันย่อมาจากคำว่า Ecology ที่แปลตามศัพท์ตรงตัวว่า “ระบบนิเวศ” หมายความว่ารถคันไหนก็ตามที่ถูกเรียกว่า Eco Car จะหมายถึงรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (มากกว่ารุ่นทั่วไป) นั่นเอง และทางรัฐบาลก็มีข้อกำหนดเอาไว้ว่ารถยนต์ประเภทนี้ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ถ้าทำได้ ก็สามารถรับสิทธิภาษีในเรทพิเศษ ตัวรถก็สามารถทำราคาขายได้ถูกลงไปด้วยนั่นเอง
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้มีการออกข้อกำหนอของรถยนต์ Eco Car เอาไว้ 2 เฟส โดยครั้งแรกออกมาบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2552 ก่อนที่จะมีออกมาอีกครั้ง ที่เราเรียกกันว่า Eco Car เฟส 2 ที่มีการปรับเปลี่ยนข้อบังคับบางอย่าง และมีประกาศบังคับใช้เมื่อปี 2558 โดยเราจะมาทำความรู้จักกันไปทีละเฟสครับ
Eco Car เฟส 1
สำหรับข้อบังคับของ BOI ในการตรวจสอบรถยนต์ว่ามีการผลิตออกมาเป็น Eco Car ได้หรือไม่ จะมีข้อกำหนดของคุณสมบัติหลักเอาไว้ดังนี้
1. เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี หรือเครื่องยนต์ดีเซลขนาดไม่เกิน 1,400 ซีซี
2. เป็นเครื่องยนต์มาตรฐานมลพิษระดับ EURO 4 ขึ้นไป
3. มีปริมาณการปล่อยไอเสีย CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์) ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร
4. มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 20 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นไป
5. มีระบบความปลอดภัยปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านหน้า มาตรฐาน UNECE R94 และการชนด้านข้าง UNECE R95, REV.1
6. มีเงินลงทุนในโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
7. มีจำนวนการผลิตไม่ต่ำกว่า 100,000 คัน/ปี ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป
8. มีการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างน้อย 4 ใน 5 ชิ้น จาก Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camsharf และ Connecting Rod โดยต้องมีขั้นตอนการ Machining Cylinder Head, Cylinder Block และ Crankshaft เป็นอย่างน้อย
ถ้าสามารถทำได้ตามเงื่อนไขข้างต้นนี้ รถยนต์ที่ผลิตออกมา จะได้รับสิทธิ
1. ภาษีสรรพสามิต 17%
2. ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปีทุกกรณี
3. ยกเว้นอาการขาเข้าสำหรับเครื่องจักรทุกเขต ตามระยะเวลาที่คณะกรรมการเห็นชอบ
4. ลดหย่อนอาการขาเข้าวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นไม่เกินร้อยละ 90 จำนวน 2 ปี
Eco Car เฟส 2
เมื่อถึงปี 2556 ทาง BOI ได้ปรับข้อกำหนดของรถยนต์ Eco Car ใหม่ เพื่อประกาศบังคับใช้ได้ในปี 2558 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดบางประการ มีรายละเอียดดังนี้
1. เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี หรือเครื่องยนต์ดีเซลขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี (ปรับเพิ่มขนาดของเครื่องยนต์ดีเซล)
2. เป็นเครื่องยนต์มาตรฐานมลพิษระดับ EURO 5 ขึ้นไป (เพิ่มมาตรฐานให้สูงขึ้น)
3. มีปริมาณการปล่อยไอเสีย CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์) ไม่เกิน 100 กรัม/กิโลเมตร (ลดจำนวนการปล่อยไอเสียลง)
4. มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 23.25 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นไป (ลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงลง)
5. มีระบบความปลอดภัยปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านหน้า มาตรฐาน UNECE R94 และการชนด้านข้าง UNECE R95, REV.1
6. มีระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน ทั้งระบบป้องกันการล้อล็อก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (เพิ่มเติมข้อกำหนดใหม่)
7. มีเงินลงทุนในโครงการไม่ต่ำกว่า 6,500 ล้านบาท ส่วนผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการแล้ว มีเงินลงทุนในโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท (ปรับจำนวนลงทุนเพิ่มสำหรับรายใหม่)
8. มีจำนวนการผลิตไม่ต่ำกว่า 100,000 คัน/ปี ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป (เร่งอัตราการผลิตให้เร็วขึ้น)
9. มีการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างน้อย 4 ใน 5 ชิ้น จาก Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camsharf และ Connecting Rod โดยต้องมีขั้นตอนการ Machining Cylinder Head, Cylinder Block และ Crankshaft เป็นอย่างน้อย
ถ้าสามารถทำได้ตามเงื่อนไขข้างต้นนี้ รถยนต์ที่ผลิตออกมา จะได้รับสิทธิ
1. ภาษีสรรพสามิต 17%
2. ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 6 ปี และจะมีการยกเว้นให้ต่อเนื่องปีที่ 7 และ 8 กรณีลงทุนเพิ่มอีก 500-800 ล้านบาทภายใน 5 ปีแรก
3. ยกเว้นอาการขาเข้าสำหรับเครื่องจักรทุกเขต ตามระยะเวลาที่คณะกรรมการเห็นชอบ
4. ลดหย่อนอาการขาเข้าวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นไม่เกินร้อยละ 90 จำนวน 2 ปี
แต่เมื่อช่วงต้นปี 2559 ทางกรมสรรพสามิตได้มีการประกาศอัตราภาษีรถยนต์ประเภท Eco Car ใหม่ โดยอัตราเดิมที่คิด 17% นั้น ถ้าหากรถยนต์ใหม่ในเฟส 2 สามารถทำอัตราการปล่อย CO2 ได้ไม่เกิน 100 กรัม/กิโลเมตร จะลดการจัดเก็บภาษีให้เหลือเพียง 14% เท่านั้น ทำให้สามารถลดราคาค่าตัวของรถยนต์ใหม่ได้อีกหน่อย ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้คนหันมาสนใจใช้งานรถยนต์ Eco Car ให้มากขึ้น จะได้ช่วยลดมลพิษในอากาศได้นั่นเอง
ดังนั้น ถ้าเราดูตามเงื่อนไขที่เห็นข้างต้นแล้ว การที่ขนาดตัวรถใหญ่ หรือมีราคาจำหน่ายสูงกว่ารถยนต์ Eco Car ทั่วไป มันจึงไม่เกี่ยวกันเลยว่ารถยนต์คันนั้นจะเป็น Eco car ได้หรือไม่ ต่อให้ค่ายรถยนต์เลือกรถเก๋งขนาดกลางมาใช้ ตั้งราคาขายไว้ 1 ล้านบาท แต่ใส่เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ที่ปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัม/กิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองระดับ 23.25 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นไป รถคันนั้นก็มีสิทธิ์เรียกว่า Eco Car ได้เช่นกันครับ
เครดิต www.autodeft.com