e-Power คืออะไร…เป็นเครื่องยนต์ หรือไฟฟ้า?
เชื่อว่าหลายท่านคงได้ยินเรื่องของเทคโนโลยี e-Power กันมาระยะหนึ่งแล้ว แน่นอนว่ามีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่า แล้วสิ่งนี้คือ อะไร ทำงานแบบไหน แล้วดีมากน้อยเพียงใด ? ในครั้งนี้ทีมงาน เรามีคำตอบให้ครับ
สำหรับเทคโนโลยี e-Power ที่ว่านี้ ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แล้วเริ่มมีการใช้งานอย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงปี 2016 จุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้รถได้สัมผัสถึง การขับที่ได้จากพลังงานไฟฟ้า 100 % โดยไม่จำเป็นจะต้องชาร์จไฟแต่อย่างใด…พูดแบบนี้แล้วยิ่งงง ??? ทำไมรถพลังงานไฟฟ้าถึงไม่ต้องชาร์จไฟ จากรูปแบบการทำงานของเทคโนโลยีนี้ ? มีแนวคิดมาจากความต้องการ ในการพัฒนาพลังงานทางเลือกที่มีอยู่หลากหลาย เป็นการผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยจะใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นต้นกำเนิดพลังงาน พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟ แตกต่างจากเทคโนโลยี Hybrid ที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ในการส่งกำลังไปที่ล้อ ซึ่งยังไม่ใช่ไฟฟ้า 100% ส่วน EV จะใช้มอเตอร์ส่งกำลังไปที่ล้อ แม้จะเป็นไฟฟ้า 100% แต่ต้องชาร์จไฟเข้าไปที่แบตเตอรี่ก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้ ส่วนเทคโนโลยี e-Power ให้พูดง่ายๆ คือ อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 เทคโนโลยี ซึ่งเป็นไปตามที่กล่าวมาว่า ระบบนี้ มีแนวคิดมาจากความต้องการพลังงานทางเลือก ที่นอกเหนือจากเทคโนโลยีอื่นๆ
ความแตกต่างของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ในแต่ละแบบ
ส่วนประกอบสำคัญของเทคโนโลยีนี้ คือ Engine, Generator, Invertor, Motor และ Battery โดยหลักการทำงานของระบบ e-Power ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด เทคโนโลยีนี้ จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร เป็นตัวกำเนิดพลังงาน ที่ใช้เครื่องแบบนี้ เพราะให้อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ต่ำ แม้ว่าเครื่องยนต์ทำงานปกติ แต่ไม่ได้ส่งกำลังโดยตรงไปที่ระบบขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นแล้วไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ให้เปลืองน้ำมัน เมื่อเครื่องยนต์ทำงานก็ส่งผ่านกำลังผ่านไปทาง Fly Wheel โดยใช้เฟืองขบต่อกับ Generator ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้าที่ได้จาก Generator นี้ จะถูกส่งต่อไปยัง Invertor ที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการทำงาน อุปกรณ์นี้จะที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟจาก AC (กระแสสลับ) เป็น DC (กระแสตรง) โดยมีชุดควบคุมการทำงานที่เรียกว่า ECM (Engine control module) ทำหน้าที่ประมวณผลการสั่งจายกระแสไฟให้เหมาะสมกับความการใช้งานในขณะนั้น (ส่วนนี้ไว้ทีมงาน BoxzaRacing จะมาขยายความเพิ่มในโอกาสต่อไป)
ส่วนประกอบหลักของเทคโนโลยี e-Power
ต่อจากนั้นกระแสไฟถูกส่งไปยัง Motor อันเป็นตัวส่งกำลังไปยังล้อ ที่มีเฟืองท้ายแบบอัตราทดเดียวหรือเฟืองเดียว ไม่มีชุดเกียร์ สำหรับ Motor นี้ มีกำลังอยู่ที่ 129 แรงม้า แรงบิดที่ 260 นิวตัน-เมตร ส่วนพลังงานไฟฟ้าที่เหลือจาก Generator บางส่วนจะถูกส่งกลับไปที่ Battery ซึ่งเป็น Lithium ion แบบ 4 โมดูล 80 เซลส์ มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้อยู่ที่ 1.57 kWh (กิโลวัตต์ชั่วโมง) ซึ่งจ่ายไฟน้อยมาก และมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่ 292 โวลต์ (ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับทางผู้ผลิตจะเลือกใช้อุปกรณ์แบบใดให้เหมาะสม)
ซึ่งหากดูจากระบบการทำงานแล้ว เทคโนโลยี e-Power นั้น ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด โดยจุดเริ่มต้นของกำลังได้จากเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ที่ให้ความประหยัดสูงเป็นตัวส่งกำลังเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว ความประหยัดจึงได้ตามที่กำหนด ส่วนกำลังที่มาจาก Motor ก็มีแรงบิดสูง หากให้สรุปเรื่องความเหมาะสมของเทคโนโลยีชนิดนี้ น่าจะเหมาะกับผู้ใช้รถที่ต้องการสัมผัสความเป็น EV แต่ติดปัญหาเรื่องสถานที่สำหรับชาร์จไฟ หรือกลุ่มผู้ที่ชอบความเป็น Hybrid แต่ไม่ต้องการความซับซ้อนของระบบการทำงานนั่นเอง
ก็ต้องดูว่าเทคโนโลยีนี้ จะสามารถนำมาใช้งานให้ เพราะว่าเทคโนโลยีนี้ ก็ยังต้องอาศัยเชื้อเพลิงฟอสซิส หรือน้ำมันอยู่ดี แถมยังต้องดูแล บำรุงรักษาเครื่องยนต์ปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น การตรวจเช็คของเหลวสำหรับหล่อเย็นอยู่ดี ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีทางเลือกสำหรับผู้ใช้รถในอนาคตอันใกล้
เครดิต www.boxzaracing.com