รู้ยัง? การเลือกขนาดท่อไอเสียให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของคุณ

        ท่อไอเสียถือเป็นของแต่งอันดับต้นๆ ของขาซิ่งที่มักจะนึกถึงก่อนเสมอ แต่เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเปลี่ยนท่อไอเสียขึ้นมาจริงๆ กลับต้องมาปวดหัวกับขนาดของท่อไอเสียที่จะใช้อีก หากเจอช่างเก่งก็ดีไปเขาจะหาขนาดที่เหมาะสมให้เราได้ แต่หากเราเจอช่างสายมั่วล่ะจะทำยังไง วันนี้เรามาเพิ่มเติมความรู้เรื่องขนาดท่อเสียกันดีกว่า

ขนาดของท่อไอเสียสำคัญอย่างไร?
ขนาดของท่อไอเสีย ส่งผลต่อการคายไอเสียออกจากห้องเผาไหม้มาก ไอเสียที่ถูกคายออกเร็วไป (ค่า Flow ไอเสียสูงมาก) จะส่งผลให้ไอดีที่กำลังประจุใหม่ไหลออกตามไปด้วยทำให้ปริมาณของไอดีลดลง ส่งผลให้การจุดระเบิดไม่รุนแรง >>> กำลังเครื่องลดลง

ไอเสียถูกคายออกช้าไป (ค่า Flow ไอเสียต่ำ) จะส่งผลให้ไอดีที่กำลังประจุใหม่ถูกต้านไว้ไม่ให้ไหลเข้ากระบอกสูบได้หมดทำ ให้ปริมาณของไอดีลดลงเช่นกัน ส่งผลให้การจุดระเบิดไม่รุนแรง >>> กำลังเครื่องลดลง

        หลายคนยังเข้าใจผิดว่าท่อขนาดใหญ่จะระบายไอเสียได้เร็วกว่า ให้ค่า Flow ที่สูงกว่า เรื่องนี้ให้ลองทดสอบด้วยการเปิดน้ำประปาที่บ้านเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน ให้เริ่มจากใช้ท่อยางขนาด 1 นิ้ว เปิดก๊อกจนสุด สมมุติว่าน้ำสามารถพุ่งได้ไกล 5 เมตรหากเปลี่ยนมาใช้ท่อยางขนาด 2 นิ้ว เปิดก๊อกจนสุด จะพบว่าน้ำสามารถพุ่งได้น้อยกว่า 5 เมตร ทั้งๆ ที่ใช้ท่อขนาดใหญกว่า แน่นอนว่าหากต้องการให้น้ำพุ่งไปไกล 5 เมตรเท่าเดิม ก็ต้องเพิ่มแรงดันน้ำเข้าไปอีก ฉะนั้นการ Flow จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของท่อและแรงดันที่ส่งมาทั้ง 2 อย่างจะต้องสัมพันธ์กัน

        ใน รถยนต์ก็เหมือนกัน……เครื่องยนต์ Standard เขาออกแบบท่อไอเสียให้มีค่าการ Flow ของไอเสียที่เหมาะสมกับมวลของไอเสีย-ที่รอบเครื่องยนต์แต่ละย่านความเร็ว แล้วหาค่าเฉลี่ยของแรงม้าและแรงบิดที่ได้ออกมา โดยเลือกเอาค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดด้วยการทดสอบบน Dyno จะพบว่าค่าแรงม้าและแรงบิด มันสัมพันธ์กันกับค่า Flow ของไอเสีย ตามรอบของเครื่องยนต์หากเครื่องไม่มีการ Modify ด้วยการเพิ่มน้ำมันและอากาศเข้าไปมากกว่าเดิม นั่นคือมวลของไอเสียเท่าเดิมเมื่อเราเพิ่มขนาดของท่อไอเสียเข้าไป (ให้ใหญ่ขึ้น) มันจะส่งผลให้การ Flow ของไอเสียลดลงนั่นคือ คายไอเสียไม่ออก ไม่ใช่คายไอเสียได้ดีกว่าเดิม สิ่งที่จะตามมาคือ แรงม้าและแรงบิดลดลง

        ถ้าเป็นเครื่องยนต์แบบ Turbo การคายไอเสียไม่ออก ยังส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมที่โข่งหลังของTurboทำให้โข่งหลังแตก หรือร้าวได้หากต้องการให้ค่า Flow ของไอเสียเพิ่มขึ้น นั่นคือต้องเร่งรอบเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นรถที่ท่อใหญ่กว่า Standard จึงให้แรงม้าและแรงบิดที่รอบสูงกว่าปกติ (บางคนบอก ท่อใหญ่ได้ปลายประมาณนั้น)

ท่อไอเสียที่มีขนาดเหมาะสมที่สุด
        ก็คือท่อที่ให้ค่า Flow ของไอเสียคงที่ๆ สุด ทั้งรอบสูงและรอบต่ำแต่อย่างว่าละครับ ทุกอย่างมีได้มีเสีย ท่อบางขนาดก็จะดีในช่วงรอบต่ำ แต่มาเสียในช่วงรอบสูงๆ การที่จะให้ท่อไอเสียตอบสนองทุกย่านความเร็วรอบให้คงที่จึงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็วิธีแก้คือทดสอบเก็บค่าทุกย่านความเร็วรอบ และหาค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดเอาและการทดสอบ ต้องกระทำบน Dyno และมีการวัดค่า Flow ของไอเสียตลอดย่านความเร็วรอบเท่านั้น

ตารางนี้ ใช้อ้างอิง เครื่องยนต์แบบ Standard เป็นหลักเครื่องยนต์ที่มีการ Modify ก็สามารถใช้ตารางนี้อ้างอิงได้แต่หากมีการ Modifyมากๆ และมีการ Turnning ECU ใหม่ ก็ให้วัดค่า Flow ของไอเสียและค่าแรงบิดประกอบด้วย ตัวเลขที่เป็นค่าทศนิยมได้มาจากการ คำนวณ การนำไปใช้จริงให้ปัดขึ้น-ลง ตามที่จะหาขนาดท่อได้

สรุป
        ท่อไอเสียขนาดเล็กกว่า จะส่งผลดีที่รอบต่ำ แต่อาจจะไม่ดีที่รอบสูงๆ และท่อไอเสียขนาดใหญ่กว่า จะส่งผลดีที่รอบสูง แต่อาจจะไม่ดีที่รอบต่ำๆ ท่อที่ดีที่สุดคือท่อที่มีขนาดเหมาะสม สามารถระบายไอเสียออกได้หมดพอดี ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไปคุณจึงต้องเลือกเอาว่าจะเอาไปใช้งานแบบใหน และรถคุณมี Power Band แบบใด

เพิ่มเติมการเลือกท่อสำหรับเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา
        สำหรับเกียร์อัตโนมัติ ให้เลือกพักกลางแบบใส้เยื้อง และใช้พักปลายแบบใส้เยื้อง หรือใส้ตรง
สำหรับเกียร์ธรรมดา ให้เลือกพักกลางหรือพักปลายเป็นแบบใส้เยื้อง อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือใช้แบบใส้ตรงทั้งหมด ก็ได้

เครดิต www.heremoo.com