“ยางหุ้มเพลา” ขาดแล้วต้องเปลี่ยนอย่าฝืนใช้
รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเหตุผลเรื่องความ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตในแง่มุมต่างๆ ทำให้ภาระต่างๆ เกือบทั้งหมดของระบบมาอยู่ที่ด้านหน้ารถ มันก็จะส่งผลให้ชิ้นส่วนต่างๆ ในด้านหน้าอาจจะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าด้านหลังและควรจะต้องดูแลเป็นพิเศษ
เพลา ขับ อุปกรณ์สำคัญในการถ่ายทอดพละกำลังที่สำคัญยิ่ง โดยเฉพาะกับรถที่ขับเคลื่อนล้อหน้าที่นอกจากจะรับหน้าที่ผลักดันให้ล้อและ ยางหมุนเพื่อเคลื่อนตัวแล้ว ยังต้องรองรับการหักเลี้ยวของล้อคู่หน้า และยืดหดได้ตามการยุบตัวของล้อด้วย ส่งผลผลให้หัวเพลาขับต้องรับภาระที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัสไม่น้อย หัวเพลาขับจึงเป็นอะไรที่ต้องการการใส่ใจและปกป้องเป็นพิเศษ เพราะค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหัวเพลานั้นไม่น้อยเลยนะครับ
เกือบทั้งหมดของรถขับเคลื่อนล้อหน้า จะใช้หัวเพลาแบบข้อต่ออ่อนแบบความเร็วคงที่ หรือที่นิยมเรียกกันว่า CV (Constant Velocity) Joint ซึ่งความเร็วของล้อเพลาขับและเพลาตามจะหมุนด้วยความเร็วคงที่เท่ากันตลอด การส่งกำลังจึงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาครับ หัวเพลาจึงต้องมีบู๊ทหัวเพลาที่คอยป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ เข้ากั้นกลางระหว่างหัวเพลานอกและใน ซึ่งแต่เดิมมีพื้นที่สัมผัสก็ค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีสิ่งสกปรกที่ไม่พึงประสงค์เข้าคลุกวงในล่ะก็ โอกาสที่หัวเพลานั้นจะชำรุดก่อนวัยอันควรมีค่อนข้างสูงเลยล่ะครับ และมันก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ เสียด้วยซิ ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์ตัวหนึ่งชื่อว่า “ยางหุ้มเพลา” มาคอยทำหน้าที่ป้องกันฝุ่นต่างๆ ไม่ให้เข้าไปในระบบของเพลาขับได้
สำหรับการตรวจสอบยางหุ้มเพลานั้นสามารถทำได้โดยการก้มดู หากมีจารบีรั่วออกมาก็คือขาดแล้ว ให้เปลี่ยนซะ จุดสังเกตุอีกย่างก็คือคราบจาระบีบริเวณขอบล้อด้านใน ซึ่งถ้าถึงขั้นนั้นแล้วแนะนำว่าควรจะรีบเปลี่ยนยางหุ้มเพลาโดยด่วน
เครดิต www.heremoo.com