เครื่องยนต์ 3 สูบ เล็กประหยัด น่าใช้ จะไหวหรือ?
รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ในตลาดประเทศไทยนับว่าเน้นความประหยัด บำรุงรักษาต่ำ และให้สมรรถนะที่ดีไม่แพ้รถที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ เทคโนโลยีการพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้จำนวนกระบอกสูบ 3 สูบ นั้น ไม่ได้หมายความว่าพละกำลังจะด้อยลงแต่อย่างใด เพราะขนาดความจุกระบอกสูบรวมกันแล้ว สามารถทำได้ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 4 สูบ เช่นกัน
นั่นคือ เครื่องยนต์ที่มี 3 ลูกสูบ มีขนาดความจุในแต่ละกระบอกสูบรวมกันแล้ว 1.0 ลิตร หรือ 1.2 ลิตร บางรุ่นสามารถทำได้ถึง 1.5 ลิตรหรือมากกว่า เทียบเท่าเครื่องยนต์ 4 สูบ จากการใช้ขนาดของลูกสูบและกระบอกสูบที่โตขึ้นให้สามารถมีความจุตามที่ต้องการได้ นอกจากนี้เครื่องยนต์ 3 สูบ ส่วนมากจะมีลักษณะการใช้จุดยึดก้านสูบกับเพลาข้อเหวี่ยงที่เยื้องกัน ซึ่งหากมองด้านหน้าตรงเข้าหาเครื่องยนต์แล้ว จะมีลักษณะเป็น 3 แฉก ทำให้การหมุนและถ่ายทอดกำลังต่อเนื่องมากขึ้น ส่วนเรื่องอาการสั่นของเครื่องยนต์นั้น น้อยลงกว่าสมัยก่อนเยอะ และในบางรุ่นก็สามารถเค้นกำลังจากเครื่องยนต์ 3 สูบ 1 ลิตร ด้วยการใช้เทอร์โบชาร์จเพิ่มกำลังให้เทียบเท่าเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 – 1.8 ลิตรเลยทีเดียว
ตัวอย่างของรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ แต่สมรรถนะสุดยอดนั่นคือ New Koenigsegg Gemera รถสปอร์ตสายพันธุ์ซูเปอร์คาร์แบบ 4 ที่นั่ง ประตูแบบยกขึ้น มาพร้อมขุมพลังไฮบริดมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ชุด และเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 2.0 ลิตร ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี Freevalve engine ผสาน new plug-in hybrid จากเครื่องยนต์เบนซินฟรีวาล์วหรือระบบควบคุมวาล์วด้วยไฮดรอลิกส์และนิวเมตริก (ลม) เพื่อควบคุมการทำงานเปิด-ปิด วาล์วได้ตามความต้องการของรอบเครื่องยนต์ทั้งสูงหรือต่ำได้ตามต้องการ ติดตั้งทวินเทอร์โบกำลังรวมสูงสุด 1,700 แรงม้า แรงบิด 3,500 นิวตัน-เมตร 0 – 100 กม./ชม. 1.9 วินาที! โดยเฉพาะกำลังจากเครื่องยนต์ 3 สูบ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ 2 ชุดเข้าไปนี้ สามารถสร้างกำลังสูงสุดได้มากถึง 600 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร
New Koenigsegg Gemera
เครื่องยนต์ใน New Koenigsegg Gemera
วัฐจักรของเครื่องยนต์แบบ 3 ลูกสูบนั้นก็มีกระบวนการเหมือนกับเครื่องยนต์ทั่วไปนั่นคือ มี 4 จังหวะ ดูด-อัด-ระเบิด-คาย และควบคุมด้วยวาล์วบนฝาสูบ และใช้หัวเทียนในการจุดระเบิด เครื่องยนต์ 3 สูบมีใช้กันมานานหลายปีแล้ว แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้นทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ทนทาน รองรับพละกำลังได้มาก และยังมีน้ำหนักที่เบา การขยับตัวของชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนที่น้อยลง ทำให้ลดการสูญเสียกำลังได้มากขึ้น เรียกว่า ตัวและคล่องตัวในการหมุนมากขึ้น อย่างเช่นเครื่องยนต์ของ Nissan เบนซิน 3 สูบ turbocharged ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตัน-เมตร ที่อยู่ใน ZEOD RC
เบนซิน 3 สูบ turbocharged ขนาด 1.5 ลิตร
Nissan ZEOD RC
สำหรับรถยนต์ในประเทศไทยนั้นก็มีรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดย่อม 3 สูบ แต่มีสมรรถนะที่ไม่แพ้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบอยู่หลายรุ่นได้แก่
Nissan Almera
Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) ใช้เครื่องยนต์ HRA0 เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ความจุ 999 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 152 ที่ 2,400 – 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ CVT น้ำหนักรถเปล่า 1,065 – 1,076 กิโลกรัม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
จุดเด่นน่าสนใจของนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ มีนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ได้แก่ เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) และเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) และเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) ด้วยกล้องสี่ตัวที่ด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้าง รอบคัน เป็นต้น
Mitsubishi Mirage / Attrage
มิตูซบิชิ มิราจและแอตทราจใช้เครื่องยนต์ 3A92 เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC ความจุ 1,193 ซีซี กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ CVT น้ำหนักรถเปล่า 913 – 958 กิโลกรัม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
จุดเด่นน่าสนใจของมิตซูบิชิ มิราจและแอตทราจ ไฟหน้าแบบ Bi-LED ระบบความปลอดภัยขั้นสูงอย่างระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า (RMS-Forward)
Honda City
Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC VTEC TURBO 12 วาล์ว ความจุ 988 ซีซี กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที เกียร์ CVT น้ำหนักรถเปล่า 1,150 – 1,165 กิโลกรัม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร
จุดเด่นน่าสนใจของฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ นอกจากเครื่องยนต์ที่มาในแบบพ่วงเทอร์โบแล้ว มาพร้อมรุ่นพิเศษชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เจเนอเรชันล่าสุด มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
Suzuki Celerio
Suzuki Celerio มาพร้อมเครื่องยนต์ K10B เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว VVT ความจุ 998 ซีซี กำลังสูงสุด 68 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 90 ที่ 3,500 รอบต่อนาที เกียร์ CVT น้ำหนักรถเปล่า 785 – 835 กิโลกรัม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 20 กิโลเมตรต่อลิตร
จุดเด่นน่าสนใจของซูซูกิ เซเลริโอ มีความเด่นนอกจากตัวรถขนาดเล็กในสไตล์ “K-Car” ในเรื่องของราคาที่ “น่ารัก” โดยในรุ่นเริ่มต้นเพียง 318,000 บาทเท่านั้น
BMW 118i
BMW 118i ใช้เครื่องยนต์แบบเบนซิน 3 สูบ 12 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน (เทคโนโลยี TwinPower Turbo) ความจุ 1,499 ซีซี กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 ที่ 1,250 – 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ 8AT อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 20 กิโลเมตรต่อลิตร
จุดเด่นน่าสนใจของบีเอ็มดับเบิ้ลยู 118i รถยนต์สุดหรูขนาดเล็ก ได้ความสปอร์ต พร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo นับเป็นรุ่นเล็กสุด BMW-Series 118i M Sport ราคา 2,099,000 บาท
MINI Cooper ใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีร่วมกับทาง BMW คือ เบนซิน 3 สูบ 12 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน (เทคโนโลยี TwinPower Turbo) ความจุ 1,499 ซีซี กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,500-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 ที่ 1,480 – 4,200 รอบต่อนาที เกียร์ 7AT อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงาน 17.3 กิโลเมตรต่อลิตร
จุดเด่นน่าสนใจของมินิ คูเปอร์ความน่ารัก ฟังก์ชั่นทันสมัย ให้อามณ์การควบคุมแบบรถสปอร์ต พร้อมความสะดวกสบาย และเทคโนโลยี TwinPower Turbo โดย Mini ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 3 สูบนั้นมีอยู่ 2 รุ่นตัวถังคือ Mini Hatch 5 Door Cooper ราคา 2,160,000 บาท และ Mini Hatch 3 Door Cooper ราคา 2,150,000 บาท
จะเห็นว่าเทคโนโลยียานยนตร์ก้าวไปไกลมาก สิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่กลับเป็นไปได้และมีประสิทธิภาพดีกว่าในอดีตด้วยซ้ำ กลับมาที่ประเทศไทยมีรถยนต์ที่เครื่องยนต์แบบเบนซิน 3 สูบอยู่หลายรุ่น ทั้งรถในระดับ อีโคาร์ และรถระดับสปอร์ตหรู ซึ่งอาจต้องค่อย ๆ ให้ผู้บริโภคปรับตัวรับกับเครื่องยนต์ Down Sizing ที่ในอนาคตจะเริ่มทยอยใช้กันแพร่หลายมากขึ้น
เครดิต www.checkraka.com