ติดค้ำโช๊ค (Strut Tower Bar) ดีไหม?

ค้ำโช๊ค (Strut Tower Bar) คืออุปกรณ์เพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังรถยนต์ โดยอุปกรณ์จะยึดที่หัวเบ้าโช็คทั้งสองด้านของรถ สามารถติดตั้งได้ทั้งคู่หน้าและหลัง บางรูปแบบนอกจากค้ำที่เบ้าหัวโช็คแล้วยังนำไปยึดติดกับตัวถังของรถเพิ่มความ แข็งแรงด้วย 

จุดประสงค์ก็เพื่อลดการบิดของตัวถังรถ (คุณสมบัติเหมือนกับโรลบาร์เลย)
เพราะการขับขี่หรือการเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการบิดตัวของตัวถัง หากตัวถังบิดตัวได้มาก การเกาะถนนจะลดลง อุปกรณ์อย่างค้ำโช๊คจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะค้ำตัวถังให้แข็งแรงเพิ่มขึ้นและ ลดบิดตัวของตัวถังลง แต่การที่รถบิดตัวได้น้อยลงนั้น จะต้องแลกกับความนุ่มนวลในการขับขี่ที่หายไปเช่นกัน (ได้อย่างก็ต้องเสียอีกอย่าง) โดยมากจึงนิยม ติดตั้ง Strut Tower Bar ในรถสำหรับใช้แข่งขันเป็นหลัก เพื่อรองรับการใช้งานที่หนักขึ้นและลดการบิดตัวของตัวถังนั่นเอง

ประโยชน์ของ ค้ำโช๊ค (Strut Tower Bar)
1. ช่วยในการควมคุมรถได้ดีขึ้น เนื่องจากตัวถังแข็งแรงขึ้นการบิดตัวหรือให้ตัวมีน้อยลง
2. ลดความเสียหายของตัวถังในจุดที่ติดตั้ง และยังช่วยตัวถังในการซับแรงกระแทกต่างๆ ได้ดีขึ้น

ชนิดของ ค้ำโช๊ค (Strut Tower Bar)
มี 2 แบบ คือแบบปรับตั้งไม่ได้ เป็นลักษณะเชื่อมติดตายตัว กับหน้าแปลนยึดเบ้าโช๊ค หรือมีน็อตไขติด แบบนี้จะช่วยในด้านความแข็งแรงมากกว่า กับแบบปรับตั้งได้ ส่วนแบบนี้จะเป็นแบบละเอียดช่วยในด้านการค้ำยันตัวถัง ด้วยการปรับตั้งให้เบ้าโช๊คทั้ง 2 ด้านให้หุบเข้าหรือกางออก

ภาพตัวอย่างการติด “ค้ำโช็คด้านหลัง”

วัสดุในการผลิต ค้ำโช๊ค (Strut Tower Bar)
วัสดุมีทั้งแบบที่เป็นเหล็กทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เหล็กเกรดพิเศษ ซึ่งมีความแข็งแรงและเหนียวมาก อีกทั้งยังสามารถยืดหยุ่นได้ดี พวกโคโมลี่ชนิดนี้จะมีความแข็งแรง แต่ก็มากับความแข็งกระด้างมากเพราะการให้ตัวมีน้อย ส่วนแบบอะลูมิเนียมพวกนี้จะมีจุดเด่นที่น้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่นมากกว่าแบบที่ทำจากเหล็ก ส่วนแบบที่ทำจากไทเทเนี่ยม พวกนี้เน้นน้ำหนักเบาและความแข็งแรงสูง ส่วนแบบที่ใช้ทั้งเหล็กและอะลูมิเนียมผสมกันนั้นจะให้ความแข็งแรงและมี น้ำหนักเบาด้วยปัจจุบันนี้แบบที่ทำจากกราไฟท์หรือคาบอนเคฟล่า แบบนี้จะให้ความสวยงามอีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นดี

 
สำหรับราคาก็มีขายกันแถวๆ 1 พันบาทขึ้นไปแล้วแต่รุ่นแล้วแต่ยี่ห้อ หากถามว่าคุ้มไหมที่จะซื้อมาติดในรถซิ่งคันเก่งของเรา อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคน หากเป็นรถที่เน้นใช้งานเบาๆ เช่น รถบ้านจ่ายกับข้าว หรือรับส่งนักศึกษา ก็อาจจะไม่จำเป็นนัก แต่หากเป็นรถที่เน้นการซิ่งเป็นหลักเลยอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน

เครดิต www.heremoo.com