อันที่จริงแล้ว ยิ่งหน้ายางแนบสนิทไปกับพื้นถนนมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รถเกาะถนนมากขึ้นเท่านั้น หากเทียบกันระหว่างยางที่มีความกว้างเท่ากัน ยางที่ไม่มีดอกยางจะสามารถยึดเกาะถนนได้ดีกว่ายางที่มีดอกยาง ส่งผลให้รถแข่งทางเรียบทั้งหลายมักเลือกใช้ยางไร้ดอก (Slick)
ซึ่งมีพื้นผิวเรียบช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนได้ดีกว่ายางรถบ้านทั่วไป และลดแรงต้านทานที่เกิดจากดอกยางได้อีกด้วย (แต่หากจู่ๆ เกิดฝนตกขึ้นมาระหว่างการแข่งขัน รับรองว่าไถลออกนอกสนามกันเป็นว่าเล่นอย่างแน่นอน ยิ่งใช้ความเร็วสูงมากเท่าไหร่ยิ่งไม่รอด)
แต่รถบ้านทั่วไปที่ใช้บนถนนปกตินั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีดอกยางเพื่อช่วย “รีดน้ำ” เมื่อขับผ่านแอ่งน้ำหรือระหว่างฝนตก ยิ่งดอกยางลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีประสิทธิภาพการรีดน้ำมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากดอกยางเริ่มสึกลงก็จะมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดลงเช่นกัน
กรณีขับรถผ่านแอ่งน้ำ ยางที่เสื่อมสภาพจนแทบไม่เหลือดอกยางนั้น จะไม่สามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ จนทำให้เกิดชั้นของน้ำแทรกกลางระหว่างหน้ายางและพื้นถนน (Hydroplaning) จึงสูญเสียประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนไป ส่งผลให้รถเสียหลักได้ในที่สุด ถึงแม้ว่ารถจะมีระบบควบคุมเสถียรภาพ (เช่น VSC, VSA, ESP, DSC,… หรืออื่นๆ ตามแต่ละผู้ผลิตรถยนต์จะเรียก) ก็แทบจะไร้ประโยชน์เนื่องจากหน้ายางไม่สัมผัสพื้นถนนไปแล้วนั่นเอง
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูฝน ก็ควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์ว่ามีดอกยางเหลือมากกว่า 3 มม. ขึ้นไป เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อนั่นเองครับ
ฝาสูบใหม่เปล่า 4JJ1 Euro 1-3
ฝาสูบใหม่เปล่า D-max Commonrail Euro 1-3 4JK1 เครื่อง 2.5 และ 4JJ1 เครื่อง 3.0 ใช้ฝาสูบตัวเดียวกับแป๊ะๆใส่กันได้ ฝาสูบของทาง GZL จะมีบ่าวาล์วและหลอดวาล์วมาให้พร้อม สำหรับนำไปบดวาล์วใส่ประกอบได้โดยง่าย โดยรุ่นนี้ปกติ ฝาสูบ Euro 1 กับ Euro 2 ตรงประกับวาล์วจะใช้แผ่นเหล็กกันน้ำมันกระเด็นแบบสั้น ส่วน ฝาสูบ All New Euro 3 จะพัฒนามาเป็นใช้แผ่นเหล็กกันน้ำมันกระเด็นแบบยาว โดยฝาสูบ 4JK1/4JJ1 Euro 1-3 ที่ทาง GZL นำเข้ามา สามารถใส้ได้ทุกรุ่น มีทำรูยึดเผื่อตรงประกับวาล์วพร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับคุณภาพเนื้อฝาสูบที่แน่นไม่มีฟองอากาศ ช่วยเรื่องของความร้อนขึ้นของฝาสูบ ฝาสูบคุณภาพต้องฝาสูบของทาง GZL
เครดิต www.sanook.com