ในช่วงที่หลายพื้นที่ของประเทศไทยต้องเผชิญกับอุทกภัยอย่างหนักหนาสาหัสเช่นนี้ หลายคนที่ใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ควรต้องระวังการขับรถลุยน้ำเอาไว้ด้วย เพราะหากเป็นพื้นที่ที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวรุนแรง ตัวรถอาจถูกพัดพาไปกับกระแสน้ำจนเกิดเป็นอันตรายได้ Sanook Auto จึงขอแนะนำวิธีเอาตัวรอดอย่างได้ผลหากรถจมน้ำ มีวิธีปฏิบัติอย่างไรได้บ้าง?
หลายคนคงเคยได้ยินว่าหากรถจมน้ำชนิดท่วมมิดคัน ให้รอจนกว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเต็มห้องโดยสารเสียก่อน เมื่อแรงดันภายนอกและภายในเท่ากัน จะช่วยให้เปิดประตูรถออกไปได้ ซึ่งในความเป็นจริงวิธีนี้เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง เพราะกว่าจะรอให้น้ำท่วมเต็มคัน ก็คงขาดอากาศหายใจเสียก่อน ยิ่งถ้าจมน้ำลึกด้วยแล้วล่ะก็ การปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ โอกาสรอดก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น
นอกจากนี้ การปล่อยให้น้ำท่วมเต็มคันเพื่อให้มีแรงดันภายนอกและภายในเท่ากัน ก็ไม่ได้แปลว่าประตูจะสามารถเปิดออกได้โดยง่ายแต่อย่างใด
วิธีที่ควรปฏิบัติเมื่อรถจมน้ำ คือ ทันทีที่รถตกน้ำ หรือถูกกระแสน้ำพัดพาลงแม่น้ำ ให้รีบลดกระจกทุกบานลงโดยทันที (หากเครื่องยนต์ดับ กุญแจจะยังคงอยู่ในตำแหน่ง ON ซึ่งสามารถลดกระจกลงได้) รีบปลดล็อกสายเข็มขัดนิรภัยของตนเอง แล้วค่อยปลดล็อกให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ จากนั้นจึงรีบปีนออกทางหน้าต่าง โดยไม่นำสิ่งของมีค่าออกมาจากรถ
กรณีไม่สามารถลดกระจกลงได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จำเป็นต้องหาวิธีทุบกระจกให้แตกโดยเร็ว ด้วยการถอดพนักพิงศีรษะแล้วใช้ส่วนที่เป็นเหล็กแหลมทุบไปที่กระจกอย่างแรงซ้ำๆ จนกว่าจะแตกออก หรือถ้าหากมีอุปกรณ์สำหรับทุบกระจกโดยเฉพาะติดรถไว้จะช่วยให้กระจกแตกออกได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีผู้ออกมาแชร์วิธีการทำให้กระจกรถแตกโดยไม่ต้องทุบ ด้วยการใช้ปลายเหล็กแหลมของพนักพิงศีรษะ สอดลงไปในช่องระหว่างกระจกและแผงประตู จากนั้นงัดเข้าหาตัวอย่างเต็มแรง ก็จะช่วยให้กระจกแตกออกได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ควรพึงระลึกไว้เสมอว่ายิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าใด โอกาสรอดก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น การตัดสินใจกระทำสิ่งใดก็แล้วแต่ จึงควรรีบปฏิบัติโดยทันที จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มากขึ้นครับ
เครดิต www.sanook.com