ยอมรับว่าในช่วงโควิด ผมเองไม่ได้มีโอกาสขับรถเข้าที่จอดรถในห้างมากนัก ส่วนใหญ่จะวนเวียนอยู่ที่ห้างย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา จวบจนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งมีโอกาสได้ขับรถเข้าไปที่ห้างดังย่านลาดพร้าว และเหมือนได้เปิดโลกใหม่ของเทคโนโลยีที่จอดรถในยุคดิจิทัล!
จริง ๆ แล้วที่จอดรถตามตึกต่าง ๆ หรือหลาย ๆ ห้างในกทม. ก็ล้วนใช้เครื่องจ่ายบัตรจอดแบบอัตโนมัติ แทนการใช้พนักงานแจกบัตรมานานแล้วนะครับ เพียงแต่บางที่ยังมีพนักงานเก็บเงินอยู่ที่ทางออก ส่วนบางที่ก็ใช้เป็นเครื่องอัตโนมัติ ซึ่งก็ทำผมเองชะงักไปเสียทุกที ว่าจะต้องเสียบบัตรตรงไหน อย่างไร
ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว อ้าว! จริง ๆ กะว่าจะไม่เอ่ยชื่อห้าง แต่ไม่ทันแล้วครับ (ฮา ๆ) เขานำเทคโนโลยีที่เรียกว่า Cashless Payment Parking มาใช้ โดยเป็นตู้อัตโนมัติทั้งทางเข้าและทางออก โดยเป็นความพยายามลดการสัมผัสให้มากที่สุดในยุคโควิดแบบนี้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีนะครับ
ทว่าสิ่งที่ผมได้ไปประสบพบเจอมาก็ถือเป็นประสบการณ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันครับ สิ่งแรกคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ที่แม้จะมีประกาศเสียงตามสายเป็นระยะ และมีป้ายอธิบายเรื่องระบบบัตรจอดรถตามจุดต่าง ๆ แต่เมี่อเป็นของใหม่ มันไม่ง่ายที่จะให้ทุกคนปรับตัวจากความคุ้นเคยจากสิ่งเก่าได้อย่างรวดเร็ว
นี่ขนาดว่าเป็นผมนะครับ ยังเงอะงะที่หน้าตู้จ่ายบัตร-คืนบัตรอยู่พักใหญ่ แล้วถ้าเป็นคนอื่น ผมขออนุญาตยกตัวอย่างคนใกล้ตัวอย่างคุณแม่ผม ถ้าขับมาคนเดียวแล้วไม่มีคนมาช่วยอธิบาย ยังไงก็ต้องมีงงแน่นอนครับ โดยเฉพาะจังหวะคืนบัตร ซึ่งเป็นบัตรอ่อนที่ต้องสแกนที่หน้าตู้บริเวณทางออก
ตามข้อมูลที่ห้างระบุไว้ การจ่ายเงินค่าจอดรถ สามารถทำได้ 3 แบบครับ คือ 1.สแกน QR Code จ่ายที่หน้าตู้เลยตอนออก 2.จ่ายผ่านจุดบริการตู้ Kiosk ที่มีบริการโมบายแบงก์กิ้ง ตามจุดต่าง ๆ ทั่วห้าง และ 3.คือ E-Stamp ที่ต้องไปจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ภายในห้าง ซึ่งมีอยู่ไม่กี่จุด
อัตราค่าจอดรถที่เซ็นทรัลลาดพร้าวปัจจุบันนี้ จอดฟรี 1 ชั่วโมงแรก ไม่เกิน 3 ชั่วโมง เหมาจ่าย 20 บาท และถ้าไม่เกิน 4 ชั่วโมงแรก เหมาจ่าย 40 บาท ส่วนถ้า 4 ชั่วโมงขึ้นไป คิดชั่วโมงละ 50 บาท ฉะนั้น ถ้านักช้อปคนไหนจอดยาว ๆ รับรองมีค่าจอดเกินร้อยแน่นอนครับ
แต่ก็ยังดีนะครับ ที่เขายังมีเมตตากับคนที่มาช้อปปิ้งอยู่บ้าง โดยใบเสร็จรวม 2,000 บาท จอดได้ 3 ชั่วโมงแรก (ไม่ต้องจ่าย 20 บาท) และใบเสร็จรวม 4,000 บาท จอดได้ 4 ชั่วโมงแรก (ไม่ต้องจ่าย 40 บาท) และใบเสร็จรวม 7,000 บาทขึ้นไป สำหรับ 6 ชั่วโมงแรก (ไม่ต้องจ่าย 60 บาท)
วันก่อนผมรวบรวมใบเสร็จไปที่เคาน์เตอร์ ปรากฏว่าเคสของผมจอดได้ฟรี 4 ชั่วโมงแรก จากนั้นเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ก็จัดการสแกนบัตรจอดให้ผม ก่อนที่ผมจะเดินกลับไปที่รถเพื่อเดินทางกลับ จากที่ดูจากเวลาที่เหลือราว ๆ 20 นาที คิดว่าไม่น่ามีปัญหาในการขับรถผ่านตู้คืนบัตรอัตโนมัติ
ทว่าในวันนั้นรถหลายคันยังไม่คุ้นกับระบบบัตรจอดแบบใหม่ ทำให้ต้องจอดเสียเวลาที่หน้าตู้อยู่คันละหลายนาทีจนรถติดยาว เมื่อถึงคิวของคันผมขับไปหน้าตู้เพื่อสแกนออก เวลาที่เผื่อไว้ 4 ชั่วโมง กลายเป็น 4 ชั่วโมง 4 นาที เท่ากับว่าจากที่ฟรี ก็เลยโดนค่าจอดไป 50 บาท แบบงง ๆ
ผมไม่ติดใจที่ต้องจ่าย 50 บาทนะครับ เพราะเคสค่าจอดเกินมา 1 วินาที แต่ถูกนับเป็น 1 ชั่วโมง เป็นเรื่องปกติของทุกห้างในกทม. ไปแล้ว เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ผมไม่ได้ย้อนกลับไปช้อปเพิ่มให้ครบ 7,000 บาท! ถ้าเป็นเช่นนั้นผมก็ไม่ต้องจ่าย 50 บาทแล้วครับ (ฮา ๆๆ)
เครดิต www.sanook.com