ตำรวจออสเตรเลียออกประกาศเตือนเจ้าของรถให้ระวังการโจรกรรมท่อแคตฯ เนื่องจากมีมูลค่าสูงยิ่งกว่าทองคำ ภายหลังจากพบเหตุลักลอบขโมยท่อแคตฯ เพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย

     เว็บไซต์ Drive.com.au ระบุว่าหลายพื้นที่ของออสเตรเลียในปัจจุบันมีเหตุการณ์ลักขโมยอุปกรณ์คาตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ (Catalytic Converter) หรือคนส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า “ท่อแคต” จากรถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ริมถนน, ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งลานจอดรถของดีลเลอร์รถยนต์เองก็ตาม โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในหลายรัฐของออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงซิดนีย์, รัฐควีนส์แลนด์ และรัฐวิกตอเรีย

     ขณะที่ขั้นตอนการโจรกรรมก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กอย่างเลื่อยไฟฟ้า ก็สามารถถอดท่อแคตออกได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที กว่าที่เจ้าของรถจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วพบว่ามีเสียงดังผิดปกติ รวมถึงเครื่องยนต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ไม่สามารถขับรถออกไปได้ตามปกติ

เศษชิ้นส่วนที่ได้จากท่อแคต

     ทั้งนี้ หากอ้างอิงตามเว็บไซต์ kitco.com พบว่าปัจจุบันราคาทองคำจะอยู่ที่ประมาณ 58 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 1,928 บาท) ต่อ 1 กรัม ขณะที่ Platinum มีราคาอยู่ที่ประมาณ 31 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 1,030 บาท) ต่อ 1 กรัม, Palladium อยู่ที่ประมาณ 59 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 1,960 บาท) ต่อ 1 กรัม ขณะที่ Rhodium มีราคาสูงถึง 385 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 12,800 บาท) ต่อ 1 กรัม ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำถึง 6.6 เท่าเลยทีเดียว

     อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่าประเทศไทยมีเหตุลักลอบขโมยอุปกรณ์คาตาไลติกคอนเวอร์เตอร์จากรถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งไว้แต่อย่างใด แต่กลับพบว่ามีกระบวนการรับซื้อท่อแคตกันอย่างแพร่หลายแทน

 

ข้อมูล :drive.com.au

เครดิต www.sanook.com