การออกแบบและผลิตยางแต่ละเส้นไม่ได้เป็นยางธรรมดา ๆ เหมือนเมื่อก่อน เพราะยางรุ่นใหม่มีส่วนประกอบของใยเหล็ก พร้อมนวัตกรรมของผ้าเสริมแรง รวมไปถึงสารประกอบพิเศษต่าง ๆ  ในเนื้อยาง ลายดอกยางรถมีกี่ประเภท

ลายดอกยางรถมีกี่ประเภท

ดอกยางคือส่วนของหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นผิวถนน ซึ่งดอกยางแต่ละแบบ มีผลต่อการใช้งานยางในสภาวะการขับขี่แบบต่าง ๆ ด้วย เช่น การหมุน การรีดน้ำ การยึดเกาะถนน เป็นต้น ตอบคำถาม ลายดอกยางรถมีกี่ประเภท ลายดอกยางมี 3 ประเภทที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกซื้อยางใหม่ ได้แก่ ดอกยางแบบสมมาตร ดอกยางแบบอสมมาตรและดอกยางแบบทิศทางเดียว

องค์ประกอบของลายดอกยาง

ข้อมูลเบื้องต้นดังต่อไปนี้เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่จะพบในลายดอกยางของยางรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งประกอบไปด้วย

• บล็อกดอกยาง: ส่วนหน้ายางรถที่ยกนูนขึ้นมา ซึ่งจะสัมผัสกับพื้นผิวถนนโดยตรง
• แนวดอกยาง: คือแนวของบล็อกดอกยางที่เรียงตัวต่อเนื่องไปตามเส้นรอบวงของยาง
• ร่องดอกยางเล็ก: ร่องเล็ก ๆ ที่มีลักษณะเป็นลวดลายอยู่ในบล็อกดอกยาง เพิ่มขอบฟันปลาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะถนน
• ร่องดอกยางละเอียด: ช่องต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นลวดลายอยู่ตามดอกยาง เพื่อช่วยรีดน้ำออกจากตัวยาง
• ร่องยาง: เป็นแนวร่องตามเส้นรอบวงของยาง ซึ่งจะอยู่ระหว่างแนวดอกยาง

ดอกยางแบบสมมาตร

ลักษณะดอกยางที่ถูกใช้กับล้อรถโดยสารมากที่สุดคือดอกยางแบบสมมาตร ยางประเภทนี้มีลักษณะดอกยางครึ่งในกับครึ่งนอกที่สมมาตรกัน เหมือนกับกระจกที่สะท้อนส่องกันและกัน และมีความต่อเนื่องกันไปตลอดแนวดอกยางรอบล้อ

สำหรับยางแบบสมมาตรนั้น เมื่อถึงเวลาสับเปลี่ยนตำแหน่งยาง ก็ทำได้หลายรูปแบบ เช่น สลับล้อหน้าไปยังล้อหลัง หรือล้อหลังไปยังล้อหน้า หรือจะสลับไขว้เป็นรูปแบบตัว X ก็ได้

ตัวอย่างยางของบริดจสโตนที่มีลักษณะดอกยางแบบสมมาตรก็คือยางประหยัดน้ำมัน รุ่น Bridgestone ECOPIA H/L 001 บางทีคุณอาจเคยได้ยินการเรียกดอกยางแบบสมมาตรว่าเป็น “ดอกยางแบบหลายทิศทาง” เพราะสามารถสับเปลี่ยนในทิศทางใดแบบไหนก็ได้ โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับขี่แต่อย่างใด

ดอกยางแบบอสมมาตร

ดอกยางอีกรูปแบบหนึ่งที่พบในล้อรถโดยสารนั่นก็คือดอกยางแบบอสมมาตร สำหรับยางชนิดนี้ ดอกยางด้านในและด้านนอกถูกออกแบบมาให้มีลายที่แตกต่างกัน ซึ่งจุดมุ่งหมายในการออกแบบชนิดนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนพื้นถนนแห้งหรือในสภาพอากาศที่เปียกชื้นโดยเพิ่มประสิทธิภาพการรีดน้ำให้ดียิ่งขึ้น

ดอกยางแบบอสมมาตร สามารถสับเปลี่ยนยางได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบหน้าไปหลัง หลังไปหน้าหรือสลับไขว้เป็นรูปตัว X แต่ต้องหันยางให้ถูกด้านเสมอ

ตัวอย่างยางของบริดจสโตนที่มีลักษณะดอกยางแบบอสมมาตรก็คือยางนุ่ม เงียบ รุ่น TURANZA T005A ซึ่งคุณจะเห็นได้เลยว่าด้านนอกของดอกยางมีบล็อกดอกยางที่กว้างขึ้น เพื่อให้มีส่วนที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนได้มากขึ้น ส่งผลให้ยึดเกาะกับถนนอย่างมั่นคงมากขึ้นและทำให้ควบคุมการขับขี่ได้ดีขึ้น ส่วนยางด้านในประกอบไปด้วยร่องดอกยางเล็กที่ทำมุมเอียงสูงเพื่อลดแรงกระแทกจากถนน มอบการขับขี่ที่นุ่มเงียบมากยิ่งขึ้น

ดอกยางแบบทิศทางเดียว

ยางประเภทนี้มีดอกยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการหมุนไปในทางเดียวกันเท่านั้น โดยทั่วไปจะพบในยางสมรรถนะสูงที่มีรูปแบบดอกยางเป็นตัว V ซึ่งช่วยรีดน้ำออกจากหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มแรงต้านต่อการเหินน้ำขณะที่รถใช้ความเร็วสูง

ยางที่มีดอกยางแบบทิศทางเดียวสามารถสับเปลี่ยนได้แค่วิธีเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการเปลี่ยนแบบหน้าไปหลังและหลังไปหน้าแต่ต้องเป็นฝั่งเดียวกัน ให้สังเกตแนวรูปตัว V ของลายดอกยางว่าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ได้ประสิทธิภาพตามคุณลักษณะของยางชนิดนี้

ตัวอย่างยางบริดจสโตนที่มีลักษณะดอกยางแบบทิศทางเดียวก็คือยางสปอร์ต รุ่น POTENZA RE-71R สำหรับยางทิศทางเดียวนั้น บนแก้มยางจะมีสัญลักษณ์ลายลูกศรพร้อมคำว่า “ROTATION” แสดงไว้ เพื่อให้สังเกตว่าจะต้องติดตั้งยางรถให้หมุนไปในทิศทางใด

ที่มา bridgestone

เครดิต www.autospinn.com