“ผ่อนกุญแจ” หมายถึง
เป็นคำที่ใช้ในกรณีรถที่ซื้อมา และยังผ่อนค่างวดกับไฟแนนซ์ไม่หมด ปรากฎว่ารถถูกขโมยไป แต่คุณ (ผู้เช่าซื้อ) ยังคงต้องผ่อนจ่ายค่างวดรถต่อ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ถึงรถหาย ก็ยังต้องผ่อนจ่ายค่างวดต่อ”
รถหาย ยังต้องผ่อนต่อหรือไม่
เมื่อรถของคุณโดนขโมยในระหว่างผ่อนไฟแนนซ์ ก็ไม่ต้องผ่อนต่อ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567 ระบุไว้ว่า ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อมระงับไปด้วย
เป็นผลให้สัญญาเช่าซื้อรถคันดังกล่าวถูกระงับโดยปริยาย แปลว่า คุณไม่ต้องผ่อนค่างวดที่เหลือกับไฟแนนซ์อีกต่อไป แต่ทั้งนี้ ก็ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนี้
กรณีมีประกันภัยชั้น 1
โดยปกติ “ประกันภัยชั้น 1” จะคุ้มครองในกรณีรถหายอยู่แล้ว ในกรณีนี้ บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่างวดที่เหลือตามจริงให้แก่ไฟแนนซ์ (ที่ผู้ทำประกันภัยซื้อรถมา) แต่หากว่า จำนวนเงินที่ต้องจ่ายเกินกว่าที่บริษัทประกันต้องจ่าย ผู้เช่าซื้อรถต้องผ่อนจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่า จะกำหนดค่าความเสียหายไว้เท่าใด
ทั้งนี้ หากผู้เช่าซื้อยังค้างค่างวดกับไฟแนนซ์ก่อนที่รถหาย ผู้เช่าซื้อต้องชำระค่างวดที่ค้างอยู่ให้ครบเสียก่อน อาทิ ค้าง 1 งวด ก็จ่าย 1 งวดที่ค้าง หรือค้าง 3 งวด ก็จ่าย 3 งวด (นับค่างวดจนถึงวันที่เกิดรถหาย)
นอกจากประกันภัยชั้น 1 ยังมีประกันประเภทอื่น ๆ ที่คุ้มครองกรณีรถหาย คือ ประกันภัยชั้น 2 และประกันภัยชั้น 2 พลัส
กรณีไม่มีประกันคุ้มครองรถหาย
หากรถของคุณไม่มีประกันภัยคุ้มครองกรณี “รถหาย” คุณซึ่งอยู่ในฐานะผู้เช่าซื้อต้องหยุดชำระค่างวด และรีบแจ้งให้ไฟแนนซ์ทราบทันที
จากนั้น ทางไฟแนนซ์จะฟ้องร้องต่อศาล เพื่อดำเนินคดีทางกฏหมายกับคุณ (ผู้เช่าซื้อ) โดยคุณต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือจากการผ่อนชำระ ตามราคากลางของรถ ณ ปัจจุบันกับไฟแนนซ์ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ศาลจะเข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย และคิดจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายให้แก่ไฟแนนซ์
สิ่งที่ควรทำ เมื่อ “รถหาย”
ขอให้เจ้าของรถเร่งเดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สถานีตำรวจใกล้บ้าน เมื่อเสร็จแล้วจึงนำใบแจ้งความไปยื่นต่อบริษัทประกันภัยทันที เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่มีประกันภัยคุ้มครองรถหาย
เครดิต www.sanook.com