รถยนต์ไฟฟ้าควรทำประกันภัย เนื่องจากเป็นยานยนต์ประเภทใหม่ในบ้านเรา ซึ่งยังมีจำนวนผู้ใช้งานไม่มากหากเทียบกับรถยนต์สันดาป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์โลกในปัจจุบันรวมถึงประเทศไทย อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ยั่งยืน (Sustainable Transportation) สังเกตได้จากการเติบอย่างเห็นได้ชัดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2022 โดยอ้างอิงจาก EV volumn เผยข้อมูลยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) รวมถึงปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEVs) เป็นยอดขายใหม่รวมกันถึง 10.5 ล้านคัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 55% เมื่อเทียบกับในปี 2021
กระแสการแข่งขันช่วงชิงการเป็นผู้นำทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก นำไปสู่การแข่งขันในธุรกิจประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้มข้นไม่แพ้กัน มีบริษัทประกันภัยหลากหลายเจ้าที่เริ่มมีแผนประกันรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกหลายแผนรวมถึงโปรโมชันที่ดุเดือด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้บริโภคที่สามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
“อินชัวร์เทค” นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทประกันภัยที่น่าจับตามองของตลาดอาเซียนในขณะนี้ จากรายงานของ PwC เผยว่าธุรกิจประกันภัยเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ พบว่า 45% ของธุรกิจประกันภัย (จากการสำรวจ 189 ราย ของ 40 ประเทศทั่วโลก) มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพอินชัวร์เทค และสำหรับประเทศไทย “ซันเดย์” (“Sunday“) ถือเป็นอินชัวร์เทคสัญชาติไทยที่เกิดมาเพื่อปฏิวัติวงการประกันภัยผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและการประกันภัยเต็มรูปแบบ (Full-stack insurtech) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยซันเดย์ได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาคำนวณเบี้ยแบบเลโก้ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันทุกการเปลี่ยนแปลง เพราะถือได้ว่าอุตสาหกรรมประกันภัยนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ทางซันเดย์ยังใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาคำนวณเบี้ยตามความเสี่ยงแบบเฉพาะส่วนบุคคล (Personalization) ซึ่งแตกต่างจากบริษัทประกันทั่วไปที่เอาความเสี่ยงของทุกคนมาเฉลี่ยเพื่อหาค่าเบี้ย ดังนั้นราคาเบี้ยของซันเดย์จึงเป็นราคาที่เหมาะสม และความคุ้มครองแบบสั่งตัดมาให้คุณโดยเฉพาะ
นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยี AI ของซันเดย์ไม่ได้แค่แตะประเด็นค่าเบี้ยเท่านั้น ซันเดย์ยังนำ AI เข้ามาใช้ในการเคลมเพื่อความรวดเร็ว โปร่งใส และแม่นยำมากยิ่งขึ้น กล่าวคือในปัจจุบันบริษัทประกันภัยทั่วไปยังใช้คนในการประเมินความเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่สามารถก่อให้เกิดความไม่แม่นยำหรือขาดความโปร่งใสได้ การที่ซันเดย์นำ AI เข้ามาช่วยดูแลการเคลมในส่วนนี้ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการประเมิณความเสียหายจะแม่นยำ และโปร่งใสให้กับคุณอย่างแน่นอน
โดย AI จะคำนวณความเสียหายและประเมินผ่านรูปภาพ ยกตัวอย่างเช่น การเคลมแบบไม่มีคู่กรณี (Dry claims) คุณสามารถถ่ายรูปความเสียหาย และส่งรูปมาที่แอปพลิเคชัน ซึ่ง AI สามารถคำนวณความเสียหาย พร้อมออกใบเคลมได้ภายใน 5 นาที โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (Surveyor) ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็วเมื่อเทียบกับกระบวนการเคลมทั่วไป
นอกจากนี้ในอนาคตคุณสามารถเชื่อมต่อกรรมธรรม์ผ่านซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ให้คุณได้เข้าถึงประกันรถยนต์และความคุ้มครองพร้อมส่งเคลมได้ทุกที่ ทุกเวลา และนอกจากการนำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับประสบการณ์ประกันภัยแล้ว ทางซันเดย์ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และรถยก 24 ชั่วโมง ให้คุณได้อุ่นใจในทุกๆ การเดินทาง และมีบริการอู่ซ่อมมากกว่า 500 ทั่วประเทศไทย รวมทั้งบริการรถให้ใช้ระหว่างซ่อมอีกด้วยเพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบไม่มีสะดุด
แผนประกันภัยรองรับรถยนต์ไฟฟ้า อาทิ Tesla, ORA, MG, NETA และ BYD ซึ่งในขณะนี้ซันเดย์ได้เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ประกันภัยอย่างเป็นทางการของ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ที่ให้บริการความคุ้มครองประกันรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 อย่างเป็นทางการ และในปีที่ผ่านมาซันเดย์ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า BYD ATTO 3 เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าในอนาคตอันใกล้จะรองรับการรับประกันรถไฟฟ้า ให้ครอบคลุมในทุกแบรนด์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ซันเดย์ยังมีแผนประกันภัยที่ครอบคลุมรถยนต์สันดาปด้วยเช่นกัน
เครดิต www.autospinn.com
ครีบแปรผันเทอร์โบ Vigo มีกี่แบบ ไปดูกัน!!!