เปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์ … ต้องเจียร์จานเบรคด้วยหรือไม่?

รถยนต์เมื่อใช้งานไปนาน 60,000 กิโลเมตรขึ้นไป หรืออาจจะ 4 – 5 ปี ระบบเบรคนับเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจมากขึ้นไม่แพ้ชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์ ซึ่งอายุการใช้งานของผ้าเบรคก็ไม่มีการระบุเอาไว้ตายตัวว่าควรเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตรหรือปีกี่ ขึ้นกับลักษณะการใช้งาน พฤติกรรมการขับขี่ และระยะทางที่ใช้งานประจำวัน แต่ควรเริ่มสังเกตุระบบเบรคอย่างเช่นตัวผ้าเบรคว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้มีประสิทธิภาพหรือไม่?
เห็นเค้าไหม สีแดง ๆ นั่นคือผ้าเบรคไง
วิธีง่าย ๆ คือ เวลาเบรคมีเสียงดังผิดปกติหรือไม่, ดูที่ผิวจานเบรคว่าเริ่มมีร่องรอยเป็นเส้น ๆ มากขึ้นหรือไม่ และหากรถที่ใส่ล้อแม็กอาจให้ดูที่ผ้าเบรคว่าเนื้อของผ้าเบรคบางลงต่ำกว่า 3 มิลลิเมตรหรือไม่ (ระหว่างจานเบรคและผ้าเบรค) หรือระดับน้ำมันเบรคในกระปุกลดต่ำลงมากหรือไม่ และหากไม่สะดวกตรวจเช็คเองก็สามารถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ตรวจเช็คสภาพร่วมกับรายการอื่น ๆ ไปด้วยก็ย่อมได้
ของเดิมติดรถเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ ใช้งาน 8 ปี วิ่งไปกว่า 120,000 กิโลเมตร บอกแล้วอายุใช้งานไม่ตายตัว!
การเปลี่ยนผ้าเบรคในเรื่องของการเลือกผ้าเบรคนั้นมีมากมายหลายรุ่นหลายแบบทั้ง “ของแท้ ของเทียบ ของเทียม” หรือของ “ซิ่ง” ซึ่งในบทความนี้จะขอเน้นง่าย ๆ ว่าเปลี่ยนของแท้ตรงรุ่นหรือเดิมจากโรงงานเอาไว้ก่อน ในบทความนี้จะเน้นในเรื่องของการ “ต้องเจียร์จาน” ทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าเบรคด้วยหรือไม่?

ผ้าเบรคใหม่ – เจียร์จานเบรค ของคู่กัน

นี่คือสภาพจานเบรคก่อนเจียร์
โดยปกติแล้วเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ผ้าเบรคและจานเบรคที่มีการเสียดสีตลอดเวลา ทั้ง 2 ชิ้นส่วนย่อมมีการสึกหรอเกิดขึ้น ตัวผ้าเบรคเองก็เริ่มถูกใช้จนบางลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ผิวสัมผัสจานเบรคก็ถูกเนื้อผ้าเบรคถูกไปเรื่อย ๆ เช่นกัน เมื่อใช้งานไปสักพักก็จะเกิดร่องรอยของการสึกหรอ โดยจะเห็นว่าผิวจานเบรคเริ่มเป็นเส้น ๆ เป็นร่องและไม่เรียบ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นร่องที่รับกันกับเนื้อผ้าเบรคที่ใช้งานอยู่นั่นเอง
นี่คือผ้าเบรคใหม่ ๆ สด ๆ ผิวจะเนียนเรียบสวยงามแบบนี้
เมื่อมีการเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ ผิวสัมผัสเรียบเนียนกว่า เมื่อมีสัมผัสกับจานเบรคเดิมที่มีร่องรอยแล้ว กว่าผิวสัมผัสของผ้าเบรคจะถูกรอยบนจานเบรคขุดจนเข้าที่อาจใช้เวลานานมาก และประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลงกว่าที่ควร เพราะผิวสัมผัสไม่เรียบเนียนเข้ากัน ทำให้ผ้าเบรคสัมผัสได้ไม่สม่ำเสมอ และอาจทำให้ผ้าเบรคชิ้นใหม่เสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นไปอีก
เจียร์จานให้เรียบรับกับผ้าเบรคอันใหม่จะได้เบรคอยู่และยืดอายุการใช้งานผ้าเบรคด้วย
ดังนั้นการเจียร์จานเบรคทุกครั้งหลังเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ จะช่วยจานและผ้าเบรคสัมผัสกันสนิทมากขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มร้อยและใช้เวลาในการปรับผิวสัมผัสน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย เพราะถูกปรับผิวหน้าของทั้งสองชิ้นให้เข้ากับแนบสนิทพอดีตั้งแต่การติดตั้งแล้ว เรียกว่าสามารถขับรถออกไปและใช้งานระบบเบรคได้เต็มที่ทันที แต่ถึงอย่างไรก็ควรค่อย ๆ ปรับตัวให้เข้ากับระบบเบรคใหม่ด้วย เพราะระยะช่องว่างหรือระยะฟรี อาจเปลี่ยนไปบ้าง จึงควรขับให้คุ้นเคยน้ำหนักเท้าก่อนดีที่สุด
หากใครเจียร์จานเบรค 2 – 3 รอบจนบางก็จัดของใหม่หนา ๆ ใส่แทนเลย
สำหรับการเจียร์จานเบรคนั้น รถยนต์ใหม่ ๆ สามารถเจียร์ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง นั่นคือ หากต้องเปลี่ยนผ้าเบรคในครั้งที่ 3 อาจจะต้องเปลี่ยนจานเบรคใหม่เพิ่มมาด้วย เพราะจานที่ถูกเจียร์จะมีความบางลงเรื่อย ๆ หากจานบางลงมาก ๆ ความแข็งแรงและทนทานก็จะลดลง อาจทำให้เกิดการ “ร้าว คด บิดตัว” ในการใช้งานได้ ซึ่งอันตรายมาก ๆ

น้ำมันเบรคก็สำคัญ

น้ำมันเบรคก็สำคัญเปลี่ยนถ่ายตามระยะคู่มือด้วยนะครับ
นอกจากนี้น้ำมันเบรคก็จำเป็นต้องมีการตรวจเช็คระยะเปลี่ยนถ่ายทั้งระบบตามคู่มือรถยนต์แต่ละรุ่นระบุเอาไว้ด้วย ซึ่งเมื่อใช้งานนานค่าความหนืดหรือคุณสมบัติในการหดตัวขยายตัวของน้ำมันเบรคจะเปลี่ยนไปประสิทธิภาพจะค่อย ๆ ลดลง โดยทั่วไปจะถ่ายน้ำมันเบรคที่ระยะทางประมาณ 50,000 – 60,000 กิโลเมตร (ขึ้นกับรถแต่ละรุ่น)

ผ้าเบรค – เจียร์จาน-น้ำมันเบรค

เงาแว็บพร้อมใช้งานเต็มร้อย
สรุปว่าเปลี่ยนผ้าเบรคทุกครั้ง ต้องเจียร์จานเบรคด้วย เพื่อให้ระบบเบรคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคใหม่ตามระยะทางที่คู่มือรถยนต์รุ่นนั้น ๆ ระบุเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจทุกการเดินทาง “เรื่องเบรคเรื่องสำคัญกว่าเรื่องความแรง เพราะต้องหยุดรถได้อย่างปลอดภัย”

 

เครดิต www.checkraka.com